แม่ค้าชานมไข่มุกวัย 26 ปี ถูกเพื่อนสมัยเรียนบุกเข้าร้านบีบคอหวังข่มขืนและหวังชิงทรัพย์ โชคดีตะโกนร้องทำให้ลุงบ้านตรงข้ามาช่วยทัน ก่อนคนร้ายจะหนีไป ทางตำรวจจับตัวได้แล้ว ญาติเผย ผู้ก่อเหตุเป็นผู้ป่วยจิตเวช
วันนี้ (8 ต.ค. 67) น.ส.พรทิพา อายุ 26 ปี แม่ค้าขายชานมไข่มุก บริเวณริมถนนชนบท หมู่ 5 ต.หนองน้ำส้ม อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ได้แจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.อุทัย หลังจากที่มีชายในหมู่บ้านคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาก่อเหตุบีบคอลวนลามและหวังชิงทรัพย์
ทาง น.ส.พรทิพา เล่าว่า วันเกิดเหตุเป็นช่วงเย็นของวันเสาร์ (5 ต.ค. 67) ที่ผ่านมา ตนขายของอยู่ในร้านค้า จากนั้นก็มี นายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเพื่อนกับตนสมัยเรียนชั้นประถมศึกษา ได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้าน จากนั้น นายรัฐธรรมนูญ ได้เดินมาชวนพูดคุยอยู่นาน จากนั้น นายรัฐธรรมนูญ เห็นว่าไม่มีใครอยู่ในร้าน จึงเดินเข้ามาภายในร้านและพุ่งเข้ามาใช้มือบีบคอตนแล้วพูดว่า “ขอหอมแก้มหน่อย” และ นายรัฐธรรมนูญ พยายามจะถอดกางเกงของตัวเองออก จากนั้น นายรัฐธรรมนูญ หยิบมีดที่อยู่ภายในร้านขึ้นมาขู่ พร้อมบอกให้ตนถอดสร้อยข้อมือทองคำออก แต่ตนพยายามขัดขืนและตะโกนให้ลุงซึ่งอยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับร้านค้าให้มาช่วย จากนั้นลุงได้ยินก็รีบเดินมาช่วย จนลุงตะโกนไล่ นายรัฐธรรมนูญ ให้ออกไปจากร้านคนร้ายจึงเดินไปขึ้นรถและขี่รถหนีไป
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งสายตรวจมาควบคุมตัว นายรัฐธรรมนูญ ไปที่โรงพัก และ ช่วงเย็นวานนี้ ตนเห็น นายรัฐธรรมนูญ เดินอยู่ในชุมชน ตนก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมตำรวจถึงได้ปล่อยตัวมา จึงได้โทรศัพท์ติดต่อกับพนักงานสอบสวนเพื่อสอบถาม ทางพนักงานสอบสวนแจ้งว่า ได้ส่งตัว นายรัฐธรรมนูญ ไปที่โรงพยาบาลอุทัย เพื่อให้ทางแพทย์ทำการรักษาและลงความเห็นว่า นายรัฐธรรมนูญ เป็นผู้ป่วยจิตเวช จะต้องส่งตัวไปรักษาต่อ ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าปล่อยมาได้อย่างไร หวั่นก่อเหตุในชชุมชนอีก
ขณะที่ นาย คเชนทร์ อายุ 51 ปี ลุงของผู้เสียหายที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ตนอยู่ในบ้านแล้วได้ยินเสียง น.ส.พรทิพา ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ตนจึงวิ่งข้ามถนนมาที่ร้านก็เห็นผู้ก่อเหตุอยู่ในร้าน ตนจึงไล่ผู้ก่อเหตุให้ออกไป หลังจากนั้นตนก็เห็นว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ถูกควบคุมตัวดำเนินคดี อีกทั้งยังจะมาหาเรื่องตนเองอีกด้วย ตอนนี้คนในชุมชนก็หวาดระแวงกลัวจะถูกทำร้าย
ด้าน พ.ต.อ.มนัส อัดโดดดร ผกก.สภ.อุทัย เผยว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกตัวผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาสอบปากคำแล้ว แต่ผู้ก่อเหตุพบว่าพูดจาไม่รู้เรื่อง โดยทางญาติของผู้ก่อเหตุบอกว่าเป็นผู้ป่วยจิตเวช ทางพนักงานสอบสวนจึงส่งตัว ผู้ก่อเหตุ ไปให้แพทย์โรงพยาบาลอุทัยตรวจ ซึ่งทางโรงพยาบาลแจ้งว่าผู้ก่อเหตุป่วยวิกลจริต ทางพนักงานสอบสวนจึงได้ปล่อยตัวไปชั่วคราวซึ่งก็ได้บอกกับทางญาติของผู้ก่อเหตุว่าวันที่ 15 ตุลาคม 2567 ต้องพาผู้ก่อเหตุมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อส่งตัวไปรักษาที่สถาบันธัญญารักษ์ เพื่อทำการให้แพทย์รักษาและให้แพทย์ยืนยันว่าผู้ก่อเหตุนั้นป่วยวิกลจริตจริงหรือไม่ ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวนอาจสื่อสารให้ผู้เสียหายไม่เข้าใจทำให้ชาวบ้านและผู้เสียหายต่างหวาดระแวง