สนามข่าว 7 สี - เชฟชื่อดังมีปัญหาเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ตัดสินใจใช้วิธีแก้ปัญหาผิด ผู้เสียหายเลยไปแจ้งความดำเนินคดี เจ้าตัวมัวแต่ทำงานหาเงิน ไม่รู้เลยว่ามีหมายเรียก กระทั่งถูกจับกุมกลางห้างสรรพสินค้า ย่านศรีนครินทร์
เป็นภาพขณะตำรวจไซเบอร์ 1 ไปจับกุม นางยุวดี หรือ เชฟอ้อย อายุ 54 ปี ขณะเปิดซุ้มขายอาหารกลางห้างฯ ย่านศรีนครินทร์ ตอนนั้นเจ้าตัวยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่าถูกศาลแขวงบางบอน ออกหมายจับฐานยักยอกทรัพย์
ซึ่งตำรวจไม่อยากให้เชฟอ้อยอับอาย ได้เชิญออกไปพูดคุยกันด้านนอก เชฟอ้อย ต่อรองขอให้ตำรวจมาจับกุมเช้าอีกวัน ยืนยันจะไม่หลบหนีแน่นอน แต่ตำรวจยืนยันว่าไม่ได้ เนื่องจากผู้เสียหายไปฟ้องศาลฯ โดยตรง ไม่ได้ผ่านพนักงานสอบสวน จำเป็นต้องนำตัวเชฟอ้อยไปฝากขังก่อน
การจับกุม เชฟอ้อย เนื่องจากมีผู้เสียหายติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหาร ก่อนพูดคุยจนเกิดความสนิทสนมกัน เชฟอ้อยเห็นว่าผู้เสียหายต้องการขายทองคำ เพชร และพระเครื่อง รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จึงอาสาเป็นนายหน้านำไปขายให้ แต่กลับนำทรัพย์สินไปวางมัดจำลงทุนธุรกิจร้านอาหารตัวเอง
เชฟอ้อย รับสารภาพว่านำทรัพย์สินจากผู้เสียหายไปขายจริง แต่หลังมีปัญหาเรื่องลูกชิ้น ทำให้ขายไม่ดีเหมือนเมื่อก่อน ขาดสภาพคล่อง ไม่สามารถผ่อนคืนให้ผู้เสียหายได้
โดย เชฟอ้อย นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปให้โปรดิวเซอร์รายการทีวีช่องดัง ซึ่งทางนั้นยังไม่ได้จ่ายเงินเชฟอ้อย แต่เชฟอ้อยได้ควักเงินจ่ายให้ผู้เสียหายไปก่อน 500,000 บาท และไม่จ่ายให้ผู้เสียหายอีกเลย เพราะคิดว่าทำไมต้องจ่าย เนื่องจากยังไม่ได้เงินจากโปรดิวเซอร์
เมื่อวานนี้ ศาลฯ มีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยตัว เชฟอ้อย ชั่วคราว โดยวางหลักประกันเป็นเงินสดจำนวน 200,000 บาท เบื้องต้น เชฟอ้อย ได้เกลี่ยไกล่กับผู้เสียหาย จะนำทรัพย์สินกลับคืนมาให้ เพราะคดียักยอกทรัพย์ สามารถไกล่เกลี่ยยอมความกันได้
นอกจากนี้ เชฟอ้อย อ้างไม่รู้เรื่องถูกออกหมายเรียกครบ 2 ครั้ง ก่อนถูกออกหมายจับ เนื่องจากตระเวนทำงานขายอาหารและสินค้าตามงานต่าง ๆ อยู่ตลอดเพื่อหาเงินชดใช้
มีรายงานว่า ระหว่างที่เชฟอ้อยขึ้นศาลฯ มีผู้เสียหายซื้อแฟรนไชส์ลูกชิ้นแล้วยังไม่ได้เงินคืน มาขอคัดค้านการประกันตัวเชฟอ้อยด้วย แต่เนื่องจากเป็นคนละคดีกัน จึงไม่สามารถคัดค้านการประกันตัวได้