เขื่อนเจ้าพระยา ลดการระบายน้ำเหลือ 2,179 ลบ.ม./วินาที เพื่อลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ จากน้ำทะเลหนุน
สถานการณ์น้ำลุ่มเจ้าพระยา วันนี้ (10 ต.ค.67) เวลา 07.00 น.
สถานี C2 อ.เมืองนครสวรรค์ ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,338 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ระดับน้ำต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 2.10 ม.
สถานี C13 เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,179 ลบ.ม/วินาที แนวโน้มลดลง ระดับน้ำท้ายเขื่อนต่ำกว่าตลิ่งอยู่ 1.29 ม.
นายวัชระ ไกรสัย ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 12 เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยา ที่ไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C2. จังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณทรงตัว ประกอบกับ แม่น้ำสะแกกรัง จ.อุทัยธานี และปริมาณน้ำ SideFlow ที่ไหลไปรวมกันด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท มีปริมาณลดลงต่อเนื่อง
โดยวันนี้ (10 ต.ค.67) กรมชลประทาน เริ่มปรับลดการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาลง จากอัตรา 2,199 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และลดการส่งน้ำเข้า แม่น้ำท่าจีน จาก 80 เหลือ 60 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ลดการส่งน้ำเข้า แม่น้ำน้อย จาก 140 เหลือ 120 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ให้อยู่ในระดับเก็บกัก 16.00 เมตร(รทก) และเพื่อช่วยลดผลกระทบกับพื้นที่น้ำท่วมด้านท้ายเขื่อน รวมทั้งเพื่อลดผลกระทบกับน้ำทะเลที่จะหนุนสูงในช่วงวันที่ 13 ต.ค.67 นี้ และคาดว่าในระยะนี้ จะมีการลดระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในอัตรา 2,000-2,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาและพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณ
-คลองโผงเผง จ.อ่างทอง , คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อยบริเวณ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา
-วัดสิงห์ อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
-อ.เมือง จ.สิงห์บุรี
-อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี
-วัดไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง
ระดับน้ำลดลง
สถานี C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 1,830 ลบ.ม./วินาที
เตือนพื้นที่เสี่ยงบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำแม่กลอง และแม่น้ำท่าจีน ชุมชนนอกแนวคันกั้นน้ำ แนวเขื่อนชั่วคราว และบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร (แนวฟันหลอ) ในจังหวัด สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ
เฝ้าระวังระดับน้ำจากสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในระยะนี้ และช่วงวันที่ 13 - 24 ตุลาคม 2567