ข่าวภาคค่ำ - ตำรวจสอบปากคำกลุ่มผู้ลงทุนธุรกิจขายตรงไปแล้วกว่า 80 ปาก คาดสัปดาห์หน้าจะชัดเจนว่าธุรกิจนี้เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายหรือไม่ ขณะที่พิธีกรชื่อดังหนึ่งใน "บอส" ประกาศขอพักงานชั่วคราว
ผู้ร่วมลงทุนกับบริษัทขายตรงชื่อดัง ทยอยรวมตัวกันเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. ในฐานะ "ผู้เสียหาย" เพื่อขอให้ตรวจสอบการชักชวนคนให้ลงทุนซื้อขายสินค้ากับบริษัท ว่าเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหรือไม่
หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดใจว่า ถูกคนใกล้ตัวชักชวนลงทุน เพราะเชื่อมั่นในพรีเซนเตอร์ที่เป็นดารา และจากคำพูดจาโน้มน้าว แต่หลังยอดขายไม่เป็นไปตามเป้า ก็ถูกผลักดันให้เข้าคอร์สเรียน เพื่อยิงโฆษณา กระตุ้นยอดขายแทน
ขณะที่รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมติดตามความคืบหน้าผู้เสียหายที่มาในวันนี้ ยืนยันว่าสอบปากคำไปแล้วกว่า 80 ปาก รวมเงินลงทุนกว่า 31 ล้านบาท
กลุ่มผู้เสียหายมองว่า หลังถูกชักชวนทำธุรกิจ ต้องเข้ารับการอบรมเพื่อเปิดเครดิต ก่อนจะโน้มน้าวให้อัพเกรดแบบขั้นบันได จาก 2,500 บาท เป็น 25,000 บาท และ 250,000 บาท อาจเข้าข่ายเป็นความผิดแชร์ลูกโซ่ หรือ หลอกร่วมลงทุน
ขณะที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เตรียมเรียกดารา อินฟลูเอนเซอร์ มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามาสอบถามข้อเท็จจริงภายในสัปดาห์หน้า เพราะถือว่าเป็นผู้สร้างความน่าเชื่อถือและรับผลประโยชน์ จากผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบ
สำหรับธุรกิจดังกล่าว ยังพบว่าเคยได้รับรางวัลในฐานะองค์กรที่ทำคุณประโยชน์ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ในวันคุ้มครองผู้บริโภคไทย ปี 2565 จาก สคบ.
ทางเพจฯ ของบริษัทได้ออกมาเคลื่อนไหว แจ้งยกเลิกกิจกรรมทั้งหมดในเดือนตุลาคมนี้ ทั้งกิจกรรม Boom on Tour และ VIP dinner และจะมีประกาศกำหนดการในอีกครั้ง โดยไม่ได้ระบุสาเหตุที่ยกเลิกแต่อย่างใด
ด้านพิธีกรชื่อดัง "กันต์ กันตถาวร" โพสต์ข้อความลงอินสตาแกรมส่วนตัว ยืนยันไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้หารือกับต้นสังกัด และผู้ร่วมงานแล้ว ตัดสินใจขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรทุกรายการ จนว่าจะมีความชัดเจน พร้อมเข้าให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม
เช่นเดียวกับที่บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด แจ้งข่าวเรื่องที่ได้หารือร่วมกับ "กันต์ กันตถาวร" เรื่องยุติการเป็นพิธีกรทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจน