ข่าวภาคค่ำ - รัฐบาล ระบุสถานการณ์น้ำขณะนี้เริ่มผ่อนคลายแล้ว พร้อมปรับลดระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาเหลือ 1,950 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หลังแนวโน้มฝนลดลง
ศปช.สั่งลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา
ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม หรือ ศปช. รายงานปริมาณฝนและจำนวนน้ำที่ไหลผ่านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา สถานี C.2 นครสวรรค์ อยู่ที่ 2,225 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และการระบายน้ำ 2,002 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มดีขึ้น ที่ประชุม ศปช. วันนี้ จึงปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยาลง เหลือ 1,950 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำฝน-น้ำท่า และสมดุลกับสถานการณ์น้ำหนุนในช่วงวันที่ 13-24 ต.ค.นี้
จากการปรับการระบายน้ำดังกล่าว ทำให้พื้นที่ใต้เขื่อนสถานการณ์น้ำเริ่มผ่อนคลายลง
ศปช.เตือนภาคใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำ
ขณะเดียวกัน ช่วงนี้มีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ทำให้ภาคใต้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มได้
พรรคประชาธิปัตย์ สำรวจสถานการณ์น้ำ กทม.
ส่วนพื้นที่ กทม. นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ลงพื้นที่ ชุมชนตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ สำรวจระดับน้ำ ในแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจาก จุดนี้มักจะเกิดปัญหาน้ำทะลักเข้าท่วมทุกปี ดังนั้นจุดนี้ จะต้องทำแก้มลิงใต้ดิน เพื่อกักเก็บน้ำในช่วงน้ำขึ้นสูง ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาว ควรมีระบบเปิด-ปิดน้ำ ที่ปากแม่น้ำ ด้วย
โฆษกรัฐบาล ชี้แจง นายกฯ แค่เว้นวรรคผิด
นอกจากนี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกชี้แจงกรณีที่ นายกรัฐมนตรี พูดถึงการไหลของน้ำในแม่น้ำปิง ไปลงแม่น้ำโขงนั้น เป็นเพียงการเว้นวรรคผิดเท่านั้น เพราะในการประชุมวันนั้น หารือกัน 2 ประเด็น ทั้งน้ำที่ไหลมายังเขื่อนภูมิพล และไหลไปที่พื้นที่ตอนล่างด้วย