หนุ่มวัย 33 ปี คลั่งยา จุดไฟเผารถจักรยานยนต์เสียหายทั้งคัน หลังขอเงินแม่ แต่แม่ไม่ให้ สารภาพเสพยาบ้ามา 1 เม็ด
วันนี้ (15 ต.ค. 67) ร.ต.อ.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 มีเหตุคนคลุ้มคลั่งเผารถจักรยานยนต์ โดยเหตุเกิดที่บ้านเช่า ไม่มีเลขที่ ติดกับโรงน้ำแข็งบ้านสามพร้าว ต.สามพร้าว อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงนำกำลังพร้อมอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม เดินทางไปตรวจสอบ
ณ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสวน พบ นายก้อง อายุ 33 ปี ยืนถือสายยางฉีดน้ำดับไฟที่กำลังลุกไหม้ไหม้รถจักรยานยนต์อยู่บริเวณสนามหญ้าหน้าบ้าน โดยรถจักรยานยนต์ถูกไฟไหม้รถเสียหายทั้งคัน ซึ่งรถดังกล่าวเป็นของ นายโอ๋ ญาติของนายก้อง
ทาง ร.ต.อ.บัญชา สาระปัญญา รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี เผยว่า จากการสอบถามนายก้องทราบว่า ถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเป็นของ นายโอ๋ ญาติของนายก้อง ซึ่งนายก้องเผารถเพราะโกรธแม่ หลังตนขอเงินแม่ไปซื้อน้ำมันเติมเครื่องตัดหญ้า แต่แม่ไม่ให้ และโมโหที่แม่ด่านายโอ๋ด้วย ตนจึงเอารถมาเผาประชด และสารภาพว่าเสพยาบ้า 1 เม็ดราคา 50 บาท แบ่งเสพกับนายโอ๋ ส่วนนายโอ๋เจ้าของรถหลบหนีไปได้ จึงควบคุมตัวนายก้องไปโรงพักเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน นายมาโนช อายุ 63 ปี เพื่อนบ้านเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเห็นนายก้องขี่รถจักรยานยนต์สะพายเครื่องตัดผ้าไปมา วนเข้าออกบ้านหลายรอบ แล้วมาเห็นควันไฟลุกในสวนใกล้กับบ้านนายก้อง จึงให้ภรรยาโทรศัพท์ขอความช่วยเหลือ ก่อนหน้านี้เคยเห็นนายเอกณัฐ เมาคุ้มคลั่งส่งเสียงดังประจำ
ขณะที่ ส่วนนางนงค์ศรี อายุ 63 ปี แม่นายก้อง เล่าว่า ลูกชายอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้กับภรรยาและลูก แต่ลูกชายไม่ทำงาน และเสพยาบ้า จะไปขอเงินตนที่บ้านวันละ 100-200 บาท ไปซื้อน้ำมันเติมรถจักรยานยนต์ขี่รอบหมู่บ้าน ตนเกรงว่าลูกชายจะเมายาบ้าแล้วฆ่าลูกสะใภ้และหลาน จึงพาไปอยู่ที่บ้านด้วยได้ 3-4 ปีแล้ว และปล่อยให้ลูกชายอยู่ที่บ้านสวนคนเดียว แต่ลูกชายก็พาเพื่อนมาเสพยาบ้า ถ้าวันไหนตนมาพบเห็นก็จะด่าและไล่เพื่อนลูกหนี และวันนี้ ทางชาวบ้านที่อยู่ใกล้ ๆ ได้โทรศัพท์บอกตนว่าลูกชายเผาข้าวของให้มาดู ตนจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ตนอยากให้ตำรวจจับลูกขังและบำบัด
