หนุ่มจิตอาสาวัย 52 ปี ช่วยหนุ่มน้อยใจภรรยากระโดดจากสะพานลอย ได้รอดปลอดภัย แต่อยู่หนุ่มจิตอาสาเสียชีวิตเอง

หนุ่มจิตอาสาวัย 52 ปี ช่วยหนุ่มน้อยใจภรรยากระโดดจากสะพานลอย ได้รอดปลอดภัย แต่อยู่หนุ่มจิตอาสาเสียชีวิตเอง

View icon 102
วันที่ 15 ต.ค. 2567 | 20.37 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ฮีโร่ของชาวบ้าน หนุ่มจิตอาสาวัย 52 ปี ช่วยหนุ่มวัย 42 ปี ที่น้อยใจภรรยาแล้วกระโดดจากสะพานลอย ได้รอดปลอดภัย แต่อยู่หนุ่มจิตอาสา โรคหัวใจกำเริบขณะช่วย สุดท้ายยื้อไม่ไหว เสียชีวิตที่ รพ.

วันที่ 15 ตุลาคม 2567 เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานงานจากญาติผู้เสียชีวิต เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นจิตอาสาชอบช่วยเหลือสังคม แล้วเหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำคืนของเมื่อวานที่ผ่านมา ( วันที่ 14 ตุลาคม 2567 เวลา 20.00 น. ) เป็นช่วงเวลานาทีชีวิต ของหนุ่มจิตอาสาวัย 52 ปีกับเหตุการณีครั้งสุดท้ายที่เขาได้ไปปฏิบัตหน้าที่ช่วยเหลือ

ก่อนเกิดเหตุหนุ่มวัย 42 ปี น้อยใจภรรยา แล้วทำร้ายตนเองด้วยการกระโดดจากสะพานลอยหน้าโรงเรียนขจรโรจน์ ถนนประชาอุทิศ ซึ่งหนุ่มวัย 42 ปีนั้นหนุ่มจิตอาสาคนดังกล่าวช่วยเอาไว้ได้ แต่คนที่ต้องจบชีวิตนั้นกลับกลายมาเป็นหนุ่มจิตอาสาเอง เพราะอยู่ๆโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจได้เกิดอาการกำเริบขึ้นในที่เกิดเหตุ แล้วก็ได้ทรุดตัวลงในขณะที่ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ จากการกระโดดจากสะพานลอย และในที่สุดก็ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบที่ โรงพยาบาลบางประกอก 1 แต่คนที่เขาช่วยเหลือรอดชีวิต โดยตอนนี้ได้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ

และต่อมาทราบชื่อผู้ป่วยคนดังกล่าว ชื่อนาย เอกชัย เลิศพันธุ์  อายุ 52 ปี และทราบต่อมาว่าเป็นจิตอาสา ที่ไปช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์กระโดดสะพานลอยดังกล่าว และเมื่ออาสาสมัครนำร่างของหนุ่มจิตอาสาส่งถึงโรงพยาบาลแล้วทีมแพทย์พยาบาล ซึ่งได้ทำการช่วยเหลืออย่างเต็มที่และอย่างสุดความสามารถแล้วแต่ไม่สามารยื้อชีวิตหนุ่มจิตอาสาเอาไว้ได้จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จาการสอบถามนาง โกศุม เลิศพันธุ์ อายุ 77 ปี เป็นคุณแม่ของเอก บอกเล่าว่า เอกเป็นลูกคนที่ 2 เป็นลูกชายคนเดียวในพี่น้อง 5 คน นอกนั้นผู้หญิงหมด เอกโตมาก็ชอบในด้านการช่วยเหลือคน เป็นจิตอาสามานานมาก เวลาออกไปข้างนอก เค้าก็จะบอกว่ามีเหตุออกไปช่วยเหลือผู้บาดเจ็บนะ พอเสร็จจากเหตุเค้าก็จะกลับเข้าบ้านมา แต่เมื่อวานนี้เค้าก็ออกไปตามปกติ แต่ตนเห็นว่านานทำไมไม่กลับมาสักที แล้วก็มีคนมาบอกว่า เอกน๊อคไปนะ วูบไปนะ แล้วก็เสียชีวิตแล้ว ตนก็เสียใจนะ แต่ตนก็คิดว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว ในการเป็นจิตอาสาของเค้า เค้ามีโรคประจำตัวเป็นหัวใจเพิ่งตรวจเจอ ไม่นานมานี่เอง

ส่วนทางด้าน นาย ปริวิทธ์ โรหิตะบุตร อายุ 45 ปี เป็นเพื่อนอาสาด้วยกันบอกเล่าว่า รู้จักกับเอกมานานเป็น 10 ปีแล้ว นิสัยดี ชอบช่วยเหลือคน เมื่อก่อนจะตั้งจุดกันที่ปั้มบางจาก แล้วตอนนี้ย้ายมารวมตัวเพื่อช่วยเหลือประชาชนกันที่ใต้ด่วน กม.9 เลิกจากงานประจำมาก็จะมาอยู่ด้วยกัน เมื่อก่อนเวลามีเหตุเอกก็จะปั่นจักรยานไปตรวจสอบเหตุก่อน ถ้าอยู่ใกล้  แต่ถ้ามาอยู่รวมกันก็จะไปรถคันเดียวกัน ตอนรู้ว่าเกิดเหตุขึ้นก็ตกใจ ใจหายนะ รู้จากห้องกู้ภัยเมื่อวานนี่แหละ ก็คิดว่าเค้าทำดีที่สุดแล้ว

เบื้องตนนาย เอกชัย หนุ่มจิตอาสานั้นเป็นอดีตอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และเป็นอดีตอาสาสมัครกู้ชีพบูรณะ แล้วยังเป็นอดีตอาสาสมัครบรรเทาสาธารณภัยชุดใต้ 13 แต่ด้วนการเจ็บป่วยของร่างกายซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจตีบซึ่งได้ตรวจพบโรคเมื่อต้นปีก็เลยเป็นด้วยเหตุผลดังกล่าวจึงไม่ได้ต่อบัตรสมาชิกจากทางต้นสังกัด ซึ่งก่อนตรวจพบว่าตนเองป่วยเป็นโรคหัวใจตีบได้เกิดอาการป่วยเป็นโรคน้ำท่วมปอดแล้วเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตากสินแล้วจากการตรวจสอบร่างกายของแพทย์จึงพบว่า นาย เอกชัย หนุ่มจิตอาสา ได้ป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบด้วย และได้รับการรักษาตัวในเวลาต่อมาโดยการผ่าตัดทำบายพาสเส้นเลือดหัวใจไปหนึ่งเส้น แต่เหลืออีกหนึ่งเส้นที่กำลังจะเข้าการรักษาโดยกาผ่าตัดแต่อยู่ในขั้นตอนของการรอเพื่อให้ร่างกายเตรียมพร้อมสมบูรณ์ซะก่อนแต่ก็ไม่ทันแล้ว