ข่าวเย็นประเด็นร้อน - บอสพอล เคยบอกว่าตัวเองมีโรงงานกระเบื้องดินเผา และบ้านหลังใหญ่โตสร้างไว้หน้าโรงงาน แต่เจ้าของตัวจริงยืนยันว่าเป็นการแอบอ้าง ซึ่งทำให้เสียชื่อเสียงมาก ๆ
ช่วงประมาณปี 2559 หรือ 8 ปีก่อน บอสพอล เคยไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง บอกว่าตัวเองมีโรงงานกระเบื้องดินเผา และสร้างบ้านใหญ่โตอยู่ด้านหน้าพื้นที่โรงงาน ซึ่งในรายการมีการไปถ่ายภาพบ้านหน้าโรงงานแห่งนี้มาด้วย โดยบอสพอลพูดย้ำว่า "นี่เป็นบ้านที่ไปสร้างที่โรงงาน ข้างหน้าจะเป็นบ้าน ข้างหลังเป็นโรงงาน"
ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อน ตามจากคลิปเก่าดังกล่าว ไปยังโรงงานกระเบื้องดินเผา ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่าเป็นโรงงานกระเบื้องดินเผาเจ้าเก่าแก่ ที่ทำธุรกิจนี้มานานหลายสิบปีแล้ว ด้านหน้าโรงงานจะเป็นหลังใหญ่โตที่ บอสพอล เคยอ้างว่าเป็นคนมาสร้างบ้าน
ไปถามชาวบ้านที่อยู่แถว ๆ นั้น ส่วนใหญ่รู้จักโรงงานกระเบื้องดินเผาแห่งนี้ และเรียกกันง่าย ๆ ว่า โรงงานกระเบื้องดารา เนื่องจากรู้ว่าเจ้าของโรงงานเป็นดาราชายชื่อดังท่านหนึ่ง คือ วีรยุทธ รสโอชา ร่วมกับภรรยาสร้างโรงงานและบ้าน ซึ่งปัจจุบันดาราท่านนี้เสียชีวิตไปแล้ว ภรรยาจึงเป็นคนดูแลกิจการ แต่ไม่เคยได้ยินว่า บอสพอล เป็นคนมาสร้างโรงงานและบ้าน
ป้าเอ๋ มีเพื่อนบ้านที่ไปทำงานในโรงงานกระเบื้องดินเผาแห่งนี้นาน 10 กว่าปีแล้ว แต่วันนี้ เพื่อนบ้านไปทำงาน ป้าเอ๋ ก็เลยเล่าให้ฟังเองว่า ชาวบ้านที่นี่รู้ว่าเป็นโรงงานของดาราท่านหนึ่งกับภรรยามานานแล้ว แต่ไม่เคยมีใครรู้ว่า บอสพอล มาเกี่ยวข้องกับที่นี่อย่างไร
ป้าบุญช่วย สุขสบาย หรือ ป๋าติ๋ม ซึ่งเคยทำงานในโรงงานกระเบื้องดินเผาแห่งนี้ เล่าว่า ป้าทำงานที่นี่ช่วงประมาณปี 2550-2551 โรงงานที่เห็นเป็นกิจการที่เจ้าของ คือ เจ๊เล็ก ทำต่อมาจากรุ่นพ่อแม่ ไม่น่าจะน้อยกว่า 30 ปีแล้ว ส่วนบอสพอลนั้น ตอนที่ป้าทำงานอยู่ไม่เคยเห็น แต่หลังจากออกมาแล้วก็ไม่รู้ว่าเข้ามาเกี่ยวข้องกับโรงงานนี้อย่างไรหรือไม่ แต่ที่ยืนยันได้แน่ ๆ ก็คือ โรงงานกระเบื้องดินเผา เจ๊เล็กกับสามีเป็นคนสร้าง ส่วนบ้านหลังใหญ่โตหน้าโรงงาน เจ๊เล็กกับสามีให้ลูกน้องในโรงงานทยอยสร้างจนเสร็จ และเจ๊เล็กกับสามีเป็นคนที่ดูแลลูกน้องดีมาก
ทีมข่าวโทรศัพท์ติดต่อไปยังเจ้าของโรงงาน ซึ่งเป็นผู้หญิงท่านหนึ่งรับสาย ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่เล่าข้อมูลให้ฟังว่า โรงงานกระเบื้องดินเผาเป็นกิจการที่บรรพบุรุษทำมาประมาณ 60-70 ปีแล้ว จากนั้นเธอมารับช่วงต่อ โดยทั้งโรงงาน และบ้านหลังใหญ่ที่เห็นอยู่ด้านหน้าเป็นการสร้างของเธอและสามี ไม่เกี่ยวกับบอสพอลแต่อย่างใด แต่ที่บอสพอลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เพราะว่าลูกสาวของเธอไปรู้จัก และคบหาเป็นแฟนกับบอสพอล จนกระทั่งทั้งคู่มีลูกสาวด้วยกัน 1 คน แต่ก็หย่ากันไปแล้วเมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว โดยเหตุผลที่หย่ากันก็เพราะว่าบอสพอลเป็นคนเจ้าชู้ ลูกสาวของตัวเองจึงขอเลิก และหย่ากับบอสพอล และเป็นคนนำเอาลูกสาวที่เกิดด้วยกันมาดูแล
ส่วนกรณีที่บอสพอล เคยไปออกรายการโทรทัศน์รายการหนึ่ง เมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว และไปอ้างว่าโรงงานและบ้านหลังใหญ่โต เป็นบ้านที่บอสพอลสร้างด้วยตัวเองนั้น เจ้าของโรงงานตัวจริงท่านนี้ บอกว่า เป็นการแอบอ้างทั้งสิ้น ตอนนั้นตัวบอสพอลพาทีมงานรายงานโทรทัศน์มาถ่ายภาพบ้านและโรงงาน แต่ไม่รู้ว่าถ่ายไปด้วยวัตถุประสงค์อะไร จนมารู้ทีหลังตอนออกรายการ ไปอ้างว่าสร้างบ้านและโรงงานเอง ซึ่งเป็นการแอบอ้างทั้งสิ้น
เจ้าของโรงงานกระเบื้องตัวจริง บอกด้วยว่า ตอนนี้รูปของลูกสาวที่หย่ากับบอสพอลและหลานสาวถูกนำไปโพสต์ตามสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ บางที่ก็ไม่ได้เบลอหน้า จึงอยากขอร้องความเห็นใจให้ช่วยลบออกด้วย เนื่องจากลูกสาวไม่ได้รู้เรื่องด้วย และหลานสาวก็เป็นเด็กที่ไม่ได้ทำความผิดอะไร
เมื่อสอบถามว่าลูกสาวที่เคยเป็นภรรยากับบอสพอล ใช่คนที่โดน ปปง. อายัดทรัพย์พร้อมกับบอสพอลหรือไม่ ซึ่งเจ้าของโรงงานท่านนี้บอกว่าใช่ แต่ไม่รู้ว่าทำไมลูกสาวที่หย่ากันไปแล้วจึงถูกอายัดทรัพย์ไปด้วย
อย่างไรก็ตาม วันนี้ อดีตภรรยาของบอสพอล ท่านนี้ ได้ไปปรากฏตัวในรายการหนึ่ง เพื่อให้ข้อเท็จจริงและขอความเห็นใจกรณีที่เธอถูก ปปง. อายัดทรัพย์ว่า เธอกับบอสพอล คบกันมา 16 ปี รู้จักกันผ่านโปรแกรมแช็ต และอยู่กินด้วยกัน จนมีลูกสาว 1 คน มีปัญหากันช่วงปี 2559-2560 และหย่ากันปี 2562 หลังหย่ากัน บอสพอลโอนเงินค่าเลี้ยงดูลูกเดือนละ 100,000 บาท ต่อมาโอนเป็นเดือนละ 160,000 บาท แต่ว่าใช้บัญชีส่วนตัวของบอสพอลในการโอนเงิน เธอจึงคิดว่านี่อาจเป็นสาเหตุที่โดนอายัดทรัพย์ด้วย จึงขอความเห็นใจ เพราะเป็นเงินที่บอสพอล โอนให้เป็นค่าเลี้ยงดูลูก อีกทั้งตอนนี้มีคนนำภาพเธอและลูกสาววัย 14 ปี ไปโพสต์ตามโซเชียลมีเดีย อยากขอความเห็นใจ เพราะตอนนี้ลูกไม่อยากไปโรงเรียนแล้ว
เมื่อวานนี้ ทีมข่าวเย็นประเด็นร้อนไปที่บ้านหลังหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบ้านที่ บอสพอล เคยย้ายชื่อมาอาศัยอยู่ในทะเบียนบ้านหลังนี้ ตอนวัยเด็กชั้นประถมศึกษา โดยหญิงเจ้าของบ้านบอกว่าสามีของเธอเป็นคนย้ายชื่อบอสพอลเข้ามา ซึ่งสามีบอกว่าเป็นญาติกัน โดยตอนที่ย้ายเข้ามาใช้ชื่อตอนนั้นว่า “ภาคภูมิ ทองมี”
สำหรับบอสพอล มีการเปลี่ยนชื่อและย้ายที่อยู่บ่อยครั้ง เท่าที่ข่าวเย็นประเด็นร้อนตรวจสอบได้ ชื่อของบอสพอล 4 ชื่อต คือ ชื่อแรก ภาคภูมิ ทองมี จากนั้นเปลี่ยนเฉพาะชื่อเป็น ณิชพน ทองมี แล้วเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลเป็น ณิชพล ณวัฒน์วรกุล และสุดท้ายเปลี่ยนทั้งชื่อและนามสกุลอีกครั้งเป็น วรัตน์พล วรัทย์วรกุล