วันนี้ (17 ต.ค. 67) เมื่อเวลา 17.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.(สอบสวน) สภ.ย่อยห้วยหลวง ได้รับแจ้งเหตุพบศพชายตกแคร่ไม้เสียชีวิตอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยดักแด้ ม.4 ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และอาสากู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่ข้างแคร่ไม้ข้างบ้านพบศพชายอายุ 42 ปี เป็นหลานชายเจ้าของบ้าน สภาพนอนหงายทับพัดลมตั้งโต๊ะ และมุ้งที่กางเอาไว้ เห็นแต่ปลายเท้าโผล่ออกมา ลำตัวทับแขนข้างซ้าย ศีรษะพิงขาแคร่ไม้และตัวบ้าน ไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย ที่เกิดเหตุไม่มีร่องรอยการต่อสู้ โดยมี นายณรงค์ อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นน้าของผู้เสียชีวิต ยืนรอให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่
นายณรงค์ บอกว่า ตนออกไปทำธุระกลับเข้ามาบ้านตอน 16.00 น. เมื่อมาถึงหลานก็นอนอยู่ลักษณะนี้แล้ว ตอนแรกไม่ได้สนใจ เพราะหลานเป็นคนชอบดื่มเหล้า เวลาเมาแล้วก็จะนอนอยู่แบบนี้ประจำ ก่อนจะตะโกนปลุกให้ตื่น และยังพูดประชดไปว่า ไม่ใช่นอนตายไปแล้วหรือ จากนั้นก็เดินเข้าไปในบ้านทำอาหารเย็น โดยทำอาหารอยู่นานเกือบชั่วโมง หลานก็ยังไม่ลุกขึ้นมา เมื่อสังเกตก็เห็นว่านอนทับพัดลม และนิ่งผิดสังเกต จึงไปเรียกภรรยาและชาวบ้านที่ทำสวนอยู่ใกล้กันมาช่วยดู เมื่อแน่ใจว่าหลานตายแล้ว ก็รีบโทรแจ้งผู้ใหญ่บ้าน เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็มาตรวจสอบ
นายณรงต์ บอกอีกว่า หลานน่าจะดื่มเหล้าเมาหนักจนตกแคร่ลงมานอนตายที่พื้น ซึ่งตนเลี้ยงหลานคนนี้ตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อแม่เขาแยกทางกัน หลานเคยไปมีครอบครัวอยู่ที่อื่น เพิ่งกลับมาอยู่กับตนได้ประมาณ 3 ปี กลับมาก็มารับจ้างทั่วไป ได้เงินมาก็ซื้อเหล้าขาวดื่มหมด ตนดุด่าเรื่องดื่มเหล้าประจำ แต่ก็ไม่เคยเชื่อฟัง เคยไล่ให้ไปอยู่กับแม่ก็ไม่ไป เมื่อเช้าตนไปทำบุญที่วัดในหมู่บ้าน กลับมาประมาณ 09.00 น. ตนยังถามหลานอยู่ว่า ทำไมไม่ไปทำงาน แต่หลานก็ไม่ได้พูดอะไร คิดว่าคงอยู่ในอาการเมาเหล้าอย่างหนัก และก่อนออกไปจากบ้านก็บอกหลานให้จับสุนัขที่เลี้ยงไว้ชื่อเจ้าลูกหมู เพศเมีย อายุ 1 ปี 2 เดือน เพราะเจ้าลูกหมูติดตนเองมาก จึงต้องให้หลานอุ้มไว้ กลับมาเจ้าลูกหมูก็ยังนอนเฝ้าอยู่ใกล้ ๆ หลาน
ด้านแม่ของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุหลังทราบเรื่อง ก่อนเดินไปลูบหัวศพลูกชาย และพูดสั่งเสียกันเป็นครั้งสุดท้ายว่า ขอให้ลูกไปสบาย ไม่ต้องห่วงแม่ ชอบตรงไหนก็ขอให้ไปอยู่ที่นั้น ขอให้อยู่ดี สบาย ก่อนให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนมีลูก 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนเล็ก คนโตเป็นผู้หญิงอยู่กับตน ส่วนลูกชายอยู่กับน้าตั้งแต่ 1 ขวบ เลี้ยงกันมาตั้งแต่เล็ก จึงชอบอยู่ที่บ้านหลังนี้ ไม่ค่อยไปหาที่บ้าน แต่เมื่อวานแปลกใจเหมือนกัน ที่ลูกชายไปหาที่บ้าน ไปช่วยตัดใบตองมาทำข้าวต้มมัดไปทำบุญที่วัด ลูกชายยังนั่งกินข้าวต้มอยู่เลย ไม่เคยมาช่วยทำของไปวัดเลยสักครั้ง อาจจะไปเป็นมาสั่งเสียหรือมาร่วมบุญกันครั้งสุดท้ายก็เป็นได้
จากการตรวจสอบเบื้องต้น แพทย์เวรระบุว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชั่วโมง คาดว่าเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตอนเกิดเหตุไม่มีคนอยู่บ้าน ไม่มีใครช่วยเหลือได้ทัน ญาติไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดในหมู่บ้านตามประเพณีต่อไป
