เปิดเงื่อนไข! ทายาทขอรับเงินบำเหน็จได้หากเสียชีวิต ม.33 ม.39

เปิดเงื่อนไข! ทายาทขอรับเงินบำเหน็จได้หากเสียชีวิต ม.33 ม.39

View icon 3.6K
วันที่ 18 ต.ค. 2567 | 13.17 น.
เกาะกระแสออนไลน์
แชร์
เปิดเงื่อนไข ทายาทขอรับเงินบำเหน็จได้หากผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 เสียชีวิต และรับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย ทั้งค่าทำศพ เงินสงเคราะห์

สิทธิประโยชน์ กรณีเสียชีวิต สำหรับผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 หากเสียชีวิต ทายาทจะได้รับ 3 สิทธิ  เงินสงเคราะห์ บำเหน็จชราภาพและค่าทำศพ  โดยมีเงื่อนไขผู้ประกันตนจะได้รับสิทธิเมื่อจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 เดือน ภายในระยะเวลา 6 เดือนก่อนถึงแก่ความตาย

เงินบำเหน็จชราภาพ หากผู้ประกันตนเสียชีวิต

ทายาทจะมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จชราภาพคืนโดยจ่ายให้แก่ทายาทผู้มีสิทธิ ได้แก่ บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย สามีหรือภรรยาตามกฎหมาย บิดามารดาที่จดทะเบียนสมรสกัน หากไม่ได้จดทะเบียนสมรสจะได้เฉพาะมารดา หรือ บุคคลอื่นที่ผู้ประกันตนทำหนังสือระบุไว้ให้ได้รับร่วมกับทายาทผู้มีสิทธิ

1.ผู้ประกันตนก่อนเสียชีวิตขอรับเงินบำนาญแล้ว

- กรณีผู้ประกันตนรับเงินบำนาญชราภาพแล้ว เสียชีวิตภายใน 60 เดือน นับจากเดือนที่รับบำนาญ ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับ จำนวนเงินบำนาญชราภาพเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต × จำนวนเดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน

- กรณีผู้ประกันตนกลับไปเป็นผู้ประกันตนและต่อมาเสียชีวิต ได้รับเงินบำนาญไม่เกิน 60 เดือน ทายาทจะได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับ จำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับก่อนกลับไปเป็นผู้ประกันตน × จำนวนเงินเดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน

- กรณีรับเงินชราภาพก่อนบังคับใช้กฎกระทรวง แต่ยังไม่ครบ 60 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับ เดือนที่เหลือจนครบ 60 เดือน

- กรณีรับเงินชราภาพมาแล้วเหลือน้อยกว่า 10 เดือน ทายาทได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับ จำนวนเงินบำนาญชราภาพที่ได้รับเดือนสุดท้ายก่อนเสียชีวิต  10 เท่า

2.ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 เสียชีวิตก่อนอายุ 55 ปี

ทายาทผู้มีสิทธิจะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ ตามกฎหมายประกันสังคมกำหนด ไม่มีสิทธิรับเป็นเงินบำนาญ แม้จะส่งเงินสมทบครบ 15 ปี โดยทายาทผู้มีสิทธิสามารถขอรับคืนเงินกรณีชราภาพได้ภายใน 2 ปี

เงินค่าทำศพ ผู้ประกันตน ม.33 ม.39

สำนักงานประกันสังคมจ่ายค่าทำศพให้แก่ผู้จัดการศพ จำนวน 50,000 บาท

ใครคือผู้จัดการศพ

- บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้จัดการศพและได้เป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
- สามีภริยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน
- บุคคลอื่นซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นผู้จัดการศพผู้ประกันตน

หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับค่าทำศพ

-แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย (สปส. 2-01)   
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้จัดการศพพร้อมตัวจริง   
- หลักฐานจากฌาปนสถานหรือมัสยิดที่แสดงว่าเป็นผู้จัดการศพ   
- สำเนาใบมรณบัตรพร้อมตัวจริง   
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชี (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้จัดการศพ

เงินสงเคราะห์กรณีผู้ประกันตน ม.33 ม.39 ถึงแก่ความตาย

เงินสงเคราะห์กรณีที่ผู้ประกันตนถึงแก่ความตาย เป็นการให้จ่ายแก่บุคคลซึ่งผู้ประกันตนทำหนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์เท่านั้น 

แต่ถ้าผู้ประกันตนมิได้มีหนังสือระบุไว้ก็ให้นำมาเฉลี่ยจ่ายให้แก่ สามีหรือภริยา บิดามารดา หรือบุตรของผู้ประกันตนในจำนวนที่เท่ากัน ดังนี้

- ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 36 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 120 เดือน ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เป็นจำนวนเท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 2 เดือน

- ผู้ประกันตนส่งเงินสมทบมาแล้วตั้งแต่ 120 เดือนขึ้นไป ให้จ่ายเงินสงเคราะห์เท่ากับค่าจ้างเฉลี่ย 6 เดือน

หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอรับเงินสงเคราะห์

- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีตาย (สปส. 2-01)    
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์    
- สำเนาทะเบียนสมรสของผู้ประกันตนและของบิดามารดาของผู้ประกันตน (ถ้ามี)    
- สำเนาสูติบัตรของบุตร หรือ สำเนาทะเบียนบ้านของบุตรกรณีไม่มีสูติบัตร    
-  หนังสือระบุให้เป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินสงเคราะห์กรณีตาย (ถ้ามี)

ผู้ประกันตน ม.33 ม.39 เสียชีวิต

ขอบคุณข้อมูลจาก ประกันสังคม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง