บอส 17 คน คืนแรกเป็นอย่างไร ในเรือนจำ

View icon 17
วันที่ 18 ต.ค. 2567 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากที่เมื่อวาน ศาลฯ ไม่ให้ประกัน "บอส" ทั้ง 17 คน ทำให้ทั้งหมดต้องพากันไปอยู่ในเรือนจำ หลายคนอยากรู้ว่า คืนแรกของการอยู่ในเรือนจำจะเป็นอย่างไร

บอส 17 คน คืนแรกเป็นอย่างไร ในเรือนจำ
ผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้กับ นายปราโมทย์ ทองศรี ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านทัณฑวิทยา รักษาราชการแทนผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ที่ต้องดูแลบอสชาย 10 คน พบว่าในจำนวนนี้ มี "บอสวิน" ที่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาว และอีกคนคือ "โคชแล็ป" ที่ป่วยเป็นโรคไต ซึ่งทั้ง 2 คน มีเอกสารยืนยันประวัติการรักษาชัดเจน

ส่วน "บอสแซม" และ "บอสกันต์" พบว่าเครียดมาก นอนไม่ค่อยหลับ เพราะนอนรวมกันทั้งหมด ถึงขั้นเอ่ยปากอยากเจอญาติ ซึ่งก็ได้อธิบายระเบียบให้ฟัง และให้เจ้าหน้าที่เฝ้าติดตามอาการอย่างใกล้ชิด โดยเมนูแรกเมื่อคืนนี้ กลุ่มบอสชายได้กินแกงเผ็ดปลามะเขือเปราะ และผัดผักคะน้าใส่ไก่ ส่วนเช้าวันนี้ เป็นแกงเขียวหวานไก่ใส่ฟักเขียว และข้าวสวย

ส่วนผู้ต้องหาหญิงทั้ง 7 คน ตรวจอาการป่วยพบ 3-4 คน มีโรคประจำตัว บางคนมีไข้ และมีความดันโลหิตสูง เช้าวันนี้จะพาไปพบแพทย์ตรวจอีกครั้ง เมื่อคืนได้เตรียมอาหารเป็นซุปไก่กับข้าวไว้ให้ แต่ก็ไม่มีใครรับประทาน

ส่วน "บอสมิน" จากการสังเกตพบว่า ไม่ได้แสดงอาการเครียดออกมาชัดเจน แต่ก็เชื่อว่าน่าจะมีอาการเครียดอยู่บ้าง เจ้าตัวได้ถามว่า ญาติหรือทนายความจะเข้าเยี่ยมได้หรือไม่ ซึ่งก็อธิบายระเบียบให้ฟังไปแล้ว

นอกจากเรื่องคืนแรกของการอยู่ในเรือนจำแล้ว ก็มีประเด็นต่อมาว่า แล้วบอสต่าง ๆ มีโอกาสจะได้รับการประกันตัวไหม โดยเฉพาะ "บอสดารา" ก็ต้องบอกว่ามี เพราะถ้าลองเทียบกับคดีใหญ่ที่มีดาราเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างคดี Forex-3D ก็มีดารา นักร้อง 2 คน ที่ได้รับการประกันตัว

คนหนึ่งคือ "พิงกี้ สาวิกา" ฝากขัง 18 สิงหาคม ปี 2565 ได้รับการประกันตัว 30 พฤศจิกายนปีเดียวกัน รวมระยะเวลาคุมขัง 105 วัน อีกคนคือ "ใบเตย สุธีวัน" ถูกคุมตัวฝากขัง 9 พฤษภาคม ปี 2566 พร้อม ดีเจแมน อดีตสามี ประกันตัวอีกที 15 พฤศจิกายนปีเดียวกัน กินเวลา 6 เดือนเศษ ไม่มีกำหนดตายตัวว่าต้องติดคุกนานแค่ไหน ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพฤติการณ์และเงื่อนไขในการพิจารณาปล่อยตัวชั่วคราวของแต่ละคดี

ฝากขัง บอสพอล ค้านประกัน 
ส่วน "บอสพอล" บิ๊กบอสคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่เมื่อวานพาตัวไปฝากขังไม่ทัน เพราะยังสอบปากคำไม่เสร็จ เช้าวันนี้ถูกคุมตัวไปฝากขัง โดย "บอสพอล" มีสีหน้าเรียบเฉย ไม่พูดอะไรกับสื่อมวลชน เบื้องต้น พนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัวท้ายคำร้อง เช่นเดียวกับบอสคนอื่น ๆ และทนายความของ "บอสพอล" ก็ยืนยันว่าจะไม่ประกันตัววันนี้ จึงค่อนข้างชัดเจนว่า น่าจะตามบอสคนอื่น ๆ ไปอยู่เรือนจำเช่นกัน

ทนายของบอสพอลยังยืนยันด้วยว่า ลูกความให้การปฏิเสธทุกประเด็น ยืนยันไม่เคยจ่ายสินบนให้ใคร และยืนยันว่า "พยานลับ" ที่เพจฯ สายไหมต้องรอด นำมาให้การกับตำรวจ ก็ไม่ใช่คนของบริษัท "บอสพอล" ไม่เคยรู้จัก เป็นพยานเท็จ

ผู้สื่อข่าวอีกคนได้ข้อมูลเชิงลึกมาจากแหล่งข่าวภายในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ยืนยันว่า เหตุผลที่ต้องสอบปากคำ "บอสพอล" จนไม่สามารถนำตัวไปฝากขังได้ทัน เพราะตำรวจ บก.ปปป. เข้าสอบปากคำต่อประเด็นเรื่องคลิปเสียง "เทวดา"

ข้อมูลสำคัญที่น่าสนใจ ตำรวจพบว่าในโทรศัพท์มือถือของ "บอสพอล" มีคลิปเสียงบันทึกไว้มากถึง 200 ไฟล์ เป็นการพูดคุยกับบุคคลต่าง ๆ ตอนนี้ กำลังให้ตำรวจ บก.ปอท. ไปตรวจสอบเปรียบเทียบว่าเป็นเสียงที่พูดคุยกับใคร มีการตัดต่อหรือไม่

ข้อมูลจากการสอบปากคำ "บอสพอล" ยังยืนยันตามคำให้การเดิมว่า คลิปเสียงที่เปิดเผยออกไป เป็นแค่การพูดคุยกัน ยังไม่มีการจ่ายเงิน แต่จากการฟังคลิปเสียงฉบับเต็ม เชื่อได้ว่าน่าจะไม่เป็นแบบนั้น และ "บอสพอล" ได้ให้การยืนยันว่าคนที่คุย ใช่คนที่กำลังมีเรื่องถูกพาดพิงหรือไม่ พร้อมกับฝากบอกสั้น ๆ ว่าตอนนี้ "ตำรวจเตรียมทำพิธีบวงสรวงแล้ว"

ดิไอคอนกรุ๊ป เปิดรับเยียวยาต่อ
แม้วานนี้ จะมีคนสร้างกระแสนำกล่องเลียนแบบระเบิด ไปวางไว้ใกล้บริเวณสำนักงานใหญ่ของบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป ย่านรามอินทรา ทำประชาชนแตกตื่นไปแล้วก็ตาม แต่วันนี้ทางดิไอคอนกรุ๊ปยังเดินหน้าเปิดศูนย์เยียวยารับเรื่องจากผู้เสียหายต่อ

ที่หน้าบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ตั้งแต่เช้ามา มีผู้เสียหายไม่น้อยยืนรอต่อคิวเพื่อนำเอกสาร ไม่ว่าจะใบเสร็จ บัตรประจำตัวประชาชน และเอกสารใบคำร้องขอเยียวยา นำส่งพนักงานบริษัท เพื่อเรียกค่าชดเชย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ของบริษัทจะซักถามผู้เสียหายถึงช่วงเวลาการสมัคร สอบถามถึงสินค้าว่า ยังเหลือหรือหมดไปแล้ว โดยผู้เสียหายบางคนได้นำสินค้าส่วนหนึ่งมาด้วย เพราะกลัวว่าจะไม่ได้รับการรับเรื่องเยียวยา และกังวลว่า หลังบอสใหญ่ของบริษัทถูกควบคุมตัวดำเนินคดีกันอยู่ จะไม่ได้เงินเยียวยาแล้ว

ขณะที่ พนักงานของดิไอคอนกรุ๊ป ให้ข้อมูลทีมข่าวเบื้องต้นว่า จะรวบรวมข้อมูลของผู้เสียหายทั้งหมดนำส่งต่อบริษัท ซึ่งจะพิจารณาเป็นกรณีไป ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลจำนวนผู้ยื่นเรื่องเยียวยาได้

ทีมข่าวลงพื้นที่ ยังพบช่อดอกไม้ปริศนา ที่ไม่ทราบไว้ใครเป็นคนนำมาวางไว้ที่หน้าบริษัท มีข้อความเขียนให้กำลังใจบริษัท ที่แผ่นกระดาษแนบมาคู่กับดอกไม้ ใจความคร่าว ๆ ว่า "ผมไม่ใช่สมาชิก ผู้ซื้อหรือผู้ขาย แค่คนธรรมดาที่เปิดใจรับฟังความจากทั้ง 2 ฝ่าย จึงเข้าใจบริบทเหตุการณ์และไม่เอนเอียงตามสื่อหรือกระแสสังคม แล้วเห็นคน ๆ หนึ่ง ที่กำลังถูกคลื่นสังคมกระหน่ำโจมตีจากทุกทิศทุกทาง ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ถูกศาลตัดสิน ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ในครั้งนี้"

โซเชียลฯ โต้กันเดือด ว.วชิรเมธี กับพิธีกรดัง 
"ดิไอคอนกรุ๊ป" เป็นเหตุ! เปิดศึกครั้งใหญ่ระหว่าง "ว.วชิรเมธี" พระนักเทศน์ กับพิธีกรชื่อดัง ทำโซเชียลฯ เดือดระอุ

เรื่องนี้ พระเมธีวชิโรดม หรือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ออกแถลงการณ์ "ขอพระอาจารย์พูดบ้าง" หลังถูกเชื่อมโยงว่า มีส่วนเทศนาโน้มน้าวให้ผู้เสียหายเข้าร่วมธุรกิจ "ดิไอคอนกรุ๊ป" โดยรายการของพิธีกรชื่อดังได้พาดพิงถึงพระอาจารย์อยู่หลายครั้ง

ในส่วนของ "ดิไอคอนกรุ๊ป" ก็ชี้แจงแล้วว่า พระอาจารย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท และพระอาจารย์เองก็ไม่ได้นิ่งเฉย ชี้แจงไปแล้วเช่นกัน
 
ใจความหลัก ๆ ของแถลงการณ์ 2 หน้ากระดาษ โต้เดือด บอกว่าการทำหน้าที่ของพิธีกร ทำให้หลายคนเข้าใจผิด มีคำพูดชี้นำ ตั้งตนเป็นศาลเตี้ย โหดเหี้ยม ขาดความเห็นอกเห็นใจแขก และคนที่เขาตกเป็นข่าว นี่ยังเป็นพิธีกรอยู่หรือเปล่า? หรือว่าตอนนี้กลายเป็น "ฆาตกรฆ่าต่อเนื่องไปแล้ว"

พิธีกรคนดังกล่าว เคยบวชเป็นพระกับพระอาจารย์ ซึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว พระอาจารย์เป็นอย่างไร ทุกวันนี้พระอาจารย์ก็ยังเป็นอย่างนั้น ถ้าพิธีกรรักภรรยา รักลูก ก็ขอให้รู้ไว้ว่าศิษย์ของพระอาจารย์ เขาก็รักพระอาจารย์เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาก็เจ็บปวดเหมือนกัน

แถลงการณ์ฉบับนี้ ทำโซเชียลโต้กันเดือด มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแถลงการณ์ฉบับดังกล่าว ซึ่ง "กัน จอมพลัง" โพสต์ถึง ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่า ได้อ่านแถลงการณ์ของท่านแล้ว ติดใจข้อความที่บอกว่า "ถ้ารักภรรยา รักลูก ก็ให้รู้ไว้ว่าศิษย์ของพระอาจารย์ ก็รักพระอาจารย์เหมือนกัน พวกเขาก็เจ็บปวดเหมือนกัน"

ข้อความท่อนนี้ ดูไม่ค่อยเหมาะสม ท่านไม่ควรพาดพิงลูกและภรรยาคนอื่น เพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้เลย จึงอยากให้ท่านระมัดระวังคำพูดพาดพิงเด็กและผู้หญิงด้วย เพราะอาจจะทำให้คนเข้าใจท่านผิด

ส่วน "แพรรี่" ไพรวัลย์ วรรณบุตร กล่าวไปในทางตำหนิ บอกว่า คำแถลงบางคำของท่าน ไม่เหมาะสมกับการเป็นพระ ส่อไปในทางกระทบกระทั่ง ไม่พอใจหนุ่มพิธีกร ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ควรพูดออกมาเลย ไม่ต้องทำเป็นแถลงการณ์คำสอนทางพระพุทธศาสนา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง