หญิงอายุ 50 ปี โดนไล่ออกจากวัด หลังบุกไปดูแลรองเจ้าอาวาสที่ป่วยติดเตียง ทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติหรืออะไรกันเลย
วันที่ 18 ต.ค.67 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุหญิงทำตัววุ่นวายภายในกุฏิรองเจ้าอาวาสของวัดแห่งหนึ่ง ในจังหวัดนครปฐม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปตรวจสอบ ที่กุฏิรองเจ้าอาวาสซึ่งป่วยเป็นอัมพาตติดเตียง พบนางเอ (นามสมมติ) อายุประมาณ 50 ปี อยู่ในกฏิกับรองเจ้าอาวาสสองต่อสอง
โดยพฤติกรรมของนางเอ เริ่มแรกทำทีเข้ามาตักบาตรในวัดทุกวัน จากนั้นก็เข้าไปดูแลรองเจ้าอาวาสที่ป่วยติดเตียง ทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติหรืออะไรกันกับรองเจ้าอาวาส และทุกเช้าของแต่ละวัน นางเอก็จะพารองเจ้าอาวาสออกไปบิณบาต ของที่ได้มาทั้งอาหารและเงินสด นางเอก็จะเก็บไว้เอง และจะนำเงินที่ได้ไปซื้อรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามา 1 คัน
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมโวยวายและด่ากราดภายในวัด เจ้าอาวาสกลัวว่ารองเจ้าอาวาสจะไม่ปลอดภัยและไม่เหมาะสม ที่มีผู้หญิงเข้ามาดูแลพระทั้งที่ไม่ได้เป็นญาติกัน เกรงว่าจะเป็นที่ครหาของญาติโยม ทางวัดจึงมีหนังสือออกมาเมื่อวันที่ 29 ก.ย.67 ให้นางเอออกจากวัดไป ซึ่งรองเจ้าอาวาสมีพระคอยดูแลอยู่แล้ว จนถึงวันนี้นางเอก็ยังไม่ออกไปจากวัด จึงต้องเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาช่วยเหลือ
ด้าน นางเอ พูดจาวกวนไปมา เอาแต่โทรหาบุคคลที่ 3 เพื่อขอความช่วยเหลือ อ้างว่าตนเองเป็นคนดูแลรองเจ้าอาวาสมา 4 ปีแล้ว เพราะไม่มีพระหรือใครเข้ามาดูแล ระหว่างพูดคุยกับตำรวจก็มีการโวยวาย และวิ่งเข้าไปสวมกอดรองเจ้าอาวาสที่นอนติดเตียงอยู่ จะไม่ยอมออกจากกุฏิ ลั่นต้องเอาหมายศาลมาเท่านั้น และจะมีการไปร้องกันจอมพลังด้วย สุดท้ายเจ้าหน้าที่จึงต้องนำตัวของรองเจ้าอาวาสออกมาจากกุฏิไปที่ที่ปลอดภัยแทน และนำตัวนางเอมาพบกับเจ้าอาวาสวัด
ทางเจ้าอาวาสของวัด บอกกับทางผู้สื่อข่าวว่า ได้มอบอำนาจให้กับไวยาวัจกรณ์ของวัดไปแล้วว่าทางวัดไม่ได้อนุญาตให้นางเอเข้ามาอยู่ภายในวัดตั้งแต่แรก เคยมีการพูดคุยกันรู้เรื่องแต่ทางนางเอไม่ยอมออกไป จนวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมานำตัวออกไปพบเจ้าอาวาส นางเอยังยื้อขอเวลาเก็บของและยืนยันว่าจะออกไปแน่นอน