เช้านี้ที่หมอชิต - ตามต่อกรณีเจ้าลัทธิประหลาด พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ อ้างตัวเป็นนักบุญ บางวันสวมเสื้อสีรุ้ง บางวันสวมชุดขาว ห่มขาว สอนลูกศิษย์ที่หลงเชื่อเกี่ยวกับเรื่อง "สอนเสพกาม" แล้วยังล่อลวงผู้คนให้นำเงินลงทุน จนคนในครอบครัวของผู้ที่ถูกหลอกต้องเข้าแจ้งความ แล้วเมื่อวานนี้พบว่ามีคนร้องเรียนเพิ่ม
พระสุขเกษม คือลูกชายของหญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นสมาชิกลิทธิประหลาดนี้ บอกว่า แม่เป็นลูกศิษย์เจ้าของลัทธินี้ตั้งแต่ ปี 64 ตอนนั้นเขายังเป็นพระ แม่ต้องสูญเงิน 400,000 บาทเพื่อร่วมลุงทุน ต่อมาพอเขาถูกจับ ก็คิดว่าน่าจะไม่มีอะไรแล้ว แต่พอแม่มาทราบว่าคน ๆ นี้มาตั้งสำนักใหม่ แล้วตั้งตนเป็นเจ้าลัทธิ แม่แอบนำโฉนดที่นา 5 ไร่ ไปขายลงทุนให้กับลัทธินี้อีก 1,300,000 บาท แล้วแม่ยังชักชวนญาติ ไปร่วมลงทุนสูญเงินอีก 500,000 บาท ตอนนี้เป็นห่วงแม่มาก กลัวว่าจะถูกหลอกลวง อยากให้ใครก็ได้ช่วยจัดการในเรื่องนี้ ก่อนจะเสียทุกอย่างไป
นอกจากนี้ยังมีลูกชาย ของหญิงอีกคนเป็นสมาชิกนี้เช่นกัน บอกว่า ตอนแรกมีคนรู้จักชักชวนแม่เข้าไปปฏิบัติธรรมกับเจ้าลัทธิดังกล่าว จากนั้นตนเริ่มสังเกตุพฤติกรรมการใช้เงินของแม่ที่เปลี่ยนไป และเห็นแม่ชักชวนญาติไปร่วมลงทุนเงินดิจิทัล ตนพยายามห้ามแต่ไม่เป็นผล ที่ผ่านมาแม่เสียเงินให้กับลัทธินี้เป็นเงินหลายแสน ตอนนี้ยังไม่ได้เงินคืนเลย แต่แม่ยังพยายามมาหาเงินลงทุนเพิ่มอีก ตนจึงตัดสินใจแจ้งความเพราะเป็นห่วงแม่
นายอำเภอปรางค์กู่ สั่งตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ เตรียมประสานตำรวจ สภ.ปรางค์กู่ และตั้งทีมฝ่ายปกครองลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่ตั้งสำนักแห่งนี้แล้ว ทางคดี ตำรวจเชื่อว่า คดีน่าจะเข้าข่ายฉ้อโกงประชาชน แต่ติดตรงที่ต้องให้ผู้ที่เดือดร้อนเท่านั้นเข้าแจ้งความโดยตรง ดังนั้นถ้าอยากดำเนินคดี ต้องให้ลูก ๆ พาแม่เข้าแจ้งความร้องทุกข์
ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ สถานที่ตั้งของลัทธิประหลาดแห่งนี้ พบว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลกลางทุ่งนา มีการหลังคาสีรุ้ง ทำให้ชาวบ้านที่พบเห็นเรียกว่า ลัทธิสีรุ้ง ซึ่งคนนอกไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ได้ ขณะที่สมาชิกตอนนี้มีประมาณ 30-40 คน
ส่วนคนนอกที่ต้องการพบผู้ที่อยู่ภายในสำนัก ต้องติดต่อผ่านโทรศัพท์มือถือเท่านั้น แล้วคนที่อยู่ข้างในต้องขออนุญาตเจ้าของลัทธิก่อน ถึงจะออกมาได้
