สนามข่าว 7 สี - คดีเจ้าอาวาสผูกคอมรณภาพ ตำรวจไปจับกุม "นายเล็ก" ตัวการที่ทำให้เจ้าอาวาสเกิดความเครียด เจ้าตัวแจงจ่ายเงินคืนเจ้าอาวาสไปแล้วกว่า 2 ล้านบาท
หลังจากที่ตำรวจจับกุมตัว นายสัญญา อายุ 66 ปี หรือ นายเล็ก มาสอบสวน และควบคุมตัวไว้ที่ห้องขัง สภ.เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายเล็ก ได้เขียนจดหมายน้อย ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น ลักษณะเหมือนคำสั่งเสีย ระบุว่า "หลวงพ่อไม่น่าทำผมเลย ฆ่าผมทั้งเป็น ผมจะตามไปหาหลวงพ่อ"
ส่วนเรื่องเงินที่ถูกหาว่ายืมหลวงพ่อไป 650,000 บาท นายเล็ก ชี้แจงว่า ได้ใช้คืนไปแล้ว 6 ครั้ง ครั้งแรก 50,000 บาท, ครั้งที่ 2 60,000 บาท, ครั้งที่ 3 70,000 บาท, ครั้งที่ 4 90,000 บาท, ครั้งที่ 5 280,000 บาท และครั้งที่ 6 30,000 บาท และยังจ่ายเงินให้ตามวาระต่าง ๆ เช่น หลวงพ่อบอกไม่มีจ่ายค่าไฟ ก็ให้ไป 30,000 บาท, ค่าทำโต๊ะ 7 ตัว 14,000 บาท และอื่น ๆ อีกหลายอย่าง รวมเป็นเงินกว่า 665,000 บาท ไม่รวมเงินกฐินอีก 1,900,250 บาท ผมก็รู้ว่าหลวงพ่อเป็นหนี้เป็นล้าน
เชื่อไหมว่าชาวบ้านเจ็บแค้นแทนหลวงพ่อที่มรณภาพ พอรู้ข่าวว่า ตำรวจจับกุมตัวนายเล็กได้ รีบพากันไปขอดูหน้า ตะโกนสาปแช่ง พร้อมกับทวงถามนาฬิกาโบราณของวัดที่ นายเล็กเอาไป อ้างว่าจะนำไปซ่อมให้ แต่ก็ไม่ยอมนำมาคืน มูลค่า 350,000 บาท
จากนั้นพากันไปจุดธูปหน้ารูปหล่อ "หลวงพ่อปาน" วัดบางนมโค ที่อยู่หน้า สภ.เสนา ช่วยดลจิตดลใจติดตามตัว นายเล็กมาดำเนินคดี และนาฬิกาที่นายเล็ก เอาไป อยู่ที่ใครให้ดลจิตดลใจให้ตามเจอ พร้อมกับสาปแช่งชนิดที่ไม่ให้ผุดได้เกิด ขอให้นายเล็ก รับผลกรรมที่ก่อเหตุไว้โดยเร็ว
เมื่อวานตำรวจเค้นสอบนายเล็ก ยาวนานทั้งวันจนช่วงค่ำ ระหว่างนายเล็กเดินออกจากห้องสอบสวน เจอนักข่าว ยอมเปิดใจด้วยน้ำเสียงอ่อย ๆ บอกว่า รู้สึกเสียใจที่หลวงพ่อมรณภาพ และบอกว่าก่อนหลวงพ่อผูกคอมรณภาพ ตนโทรศัพท์ไปบอกยกเลิกเจ้าภาพกฐิน ช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพราะไม่มีเงิน โดยนำซองกฐิน 200 กว่าซอง ไม่ทราบจำนวนเงินในซองไปมอบให้หลวงพ่อแล้ว ส่วนซองที่เหลือยังไม่ได้เก็บตามร้านค้า
ขณะที่ตำรวจนำกำลังไปตามหานาฬิกาโบราณที่นายเล็ก ระบุว่า นำไปซ่อมที่ร้านซ่อมนาฬิกาชื่อว่า "ร้านมานะการช่าง" อยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี ก็พบนาฬิกาโบราณดังกล่าวตั้งอยู่ จึงตรวจยึดกลับไป
เจ้าของร้าน บอกว่า เมื่อเดือนที่แล้ว นายเล็กนำนาฬิกาโบราณใส่รถกระบะมาให้ซ่อม บอกว่าเป็นนาฬิกาของเจ้าวาสวัดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตนเองช่วยหาร้านซ่อมให้ แต่ไม่มีใครรับซ่อม เหลือเพียงร้านของตนเอง จึงรับซ่อมเอาไว้ ต่อมาประมาณ 2 สัปดาห์ นายเล็กกลับมาที่ร้านอีกครั้ง บอกว่าไม่มีเงินขอยืมเงิน และขอนาฬิกาข้อมือเอาไปให้หลาน จึงให้ไป
ด้วยความสงสารตำรวจจึงควักเงินส่วนตัวเป็นค่าซ่อมไป 1,000 บาท ให้กับเจ้าของร้าน จากนั้นก็พากันไปติดตั้งนาฬิกาที่วัด นายสมนึก เจ้าของร้านซ่อมนาฬิกา บอกว่า ตนเองฝันว่ามางานศพของพระที่วัดแห่งหนึ่ง วันนั้นมีการจัดงานศพและรู้ว่าเป็นงานศพของพระภิกษุสงฆ์ ทำให้คิดว่ามีความเชื่อมโยงกัน และก็มาทราบข่าวว่ามีหลวงพ่อมรณภาพผูกคอเสียชีวิต แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นวัดที่เป็นเจ้าของนาฬิกาโบราณเรือนนี้ สำหรับนาฬิกาเรือนนี้ ถ้าขายอยู่ในท้องตลาด ก็จะอยู่ในราคาประมาณ 70,000 กว่าบาท
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บอกว่า วันนี้จะนำตัวนายเล็ก ไปฝากขังต่อศาลแขวงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นที่จังหวัดอ่างทอง มีวัด 3 แห่ง ถูกนายเล็กหลอกนำซองกฐินไปเรี่ยไรเงิน แต่เงินที่ได้เข้ากระเป๋าตัวเอง ไม่ได้นำไปให้วัด และวัดทั้ง 3 แห่งก็ไม่ได้แจ้งความ
