“สัจลิขิตเป็นของอาตมา พระราชศรัทธาเป็นของพระเจ้าอยู่หัว” จารุวณฺโณ ภิกฺขุ (พระอาจารย์ต้น) หลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์
หลังเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ พระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ตั้งพระทวีวัฒน์ จารุวณฺโณ (พระอาจารย์ต้น) เป็น พระราชญาณวัชรชิโนภาส พิลาสธรรมนาวานุสิฐ ยติคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี พระราชาคณะชั้นราช ฝ่ายวิปัสสนาธุระ สถิต ณ สถานศึกษาธรรมป่านาโสกฮัง จังหวัดอำนาจเจริญ นั้น
ล่าสุด (23ต.ค.67) พระอาจารย์ต้น ได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊ก ธรรมนาวา Dhammanava หลังได้รับพระราชทานสัญญาบัตรตั้งสมณศักดิ์ ดังนี้
“สัจลิขิตเป็นของอาตมา พระราชศรัทธาเป็นของพระเจ้าอยู่หัว
ด้วยเหตุผลที่อาตมาภาพมิได้เห็นสมณศักดิ์เป็นสิ่งพึงปรารถนา และได้มีประสบการณ์ในการเห็นปัญหาในสมณศักดิ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยชอบประกอบด้วยธรรม จึงได้วาง สัจจลิขิต ในเรื่องนี้ไว้แต่เดิม พยายามหลีกเลี่ยงการรับสมณศักดิ์มาหลายครั้งหลายคราว เพื่อดำรงรักษาสัจลิขิตไว้อย่างมั่นคง และมีปณิธานที่จะรักษาต่อไปอย่างมั่นคง
ด้วยความที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชศรัทธาอย่างแน่วแน่ มีพระมหากรุณาธิคุณต่ออาตมาอย่างยิ่งในการไว้วางพระราชหฤทัยให้อาตมาเข้าถวายพระธรรมเทศนาบรรยาย และทรงอาราธนานิมนต์ให้ดำเนินงานเผยแพร่ธรรมนาวาวังเป็นไปด้วยความลุล่วงด้วยดี อีกทั้งยังเป็นการถวายพระเกียรติแด่พระองค์
จึงทรงมีพระกรุณาออกพระบรมราชโองการโปรดเกล้าสมณศักดิ์ลงมาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนธรรมนาวาวังให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย อาตมาจึงมิอาจด้วยมิบังควรปฏิเสธพระบรมราชโองการสมณศักดิ์นี้ได้ และเป็นเหตุที่อาตมาในฐานะพระสงฆ์ในราชอาณาจักรไทยที่พระองค์ทรงทำนุบำรุง จึงได้น้อมฉลองพระราชศรัทธาในพระองค์ตามพระราชประสงค์
การที่จะยังคงรักษาสัจลิขิตไว้ให้คงเดิมนั้น อาตมาจึงตั้งเจตนาที่ขอรับ “พระราชศรัทธา” ของพระองค์ไว้ ส่วนสมณศักดิ์ขอมอบไว้ในฐานะเป็นที่ตั้งแห่งการดำเนินงานธรรมนาวาวังและการสนองงานในพระราชดำริ อันเป็นไปเพื่อประโยชน์ในการพระศาสนาเท่านั้น ไม่ประสงค์จะให้เป็นยศศักดิ์ติดตัวไปทุกที่
ทุกท่านจึงยังสามารถเรียกพระอาจารย์ต้นได้เหมือนเดิม เพราะยังเป็นการถือตามสัจลิขิตเดิมอยู่ ด้วยเหตุนี้ “สัจลิขิตจึงเป็นของอาตมา พระราชศรัทธาเป็นของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” อาตมาจึงน้อมขอรับสนองพระราชศรัทธาของพระองค์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ส่วนสมณศักดิ์มอบให้เป็นเรื่องของการสนองงานในพระองค์
จารุวณฺโณ ภิกฺขุ”