วันนี้ (24 ต.ค. 67) เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ท.อภิชา เตียงประโคน สว.(สอบสวน) สภ.เฉลิมพระเกียรติ ได้รับแจ้งเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่หมู่ 7 บ้านดอนไม้ไฟ ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร หน่วยกู้ภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับจากเทศบาล และ อบต.ใกล้เคียง ร่วมตรวจสอบและระงับเหตุเพลิงไหม้
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ กำลังถูกเพลิงไหม้อย่างรุนแรง จากนั้นหน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายท้องที่ได้เร่งช่วยกันฉีดน้ำดับเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่เนื่องจากบ้านที่เกิดเหตุเป็นไม้เก่า ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็วเผาบ้านวอดเสียหายทั้งหลัง และข้าวของภายในบ้านก็ถูกไหม้เสียหายทั้งหมด
สอบถาม นางแก้ว อายุ 80 ปี เจ้าของบ้านหลังเกิดเหตุซึ่งอยู่อาการตื่นตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บอกว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ เป็นฝีมือของ นายจตุรงค์ อายุ 57 ปี ลูกชายคนเล็กของตน เป็นคนลงมือจุดไฟเผา เนื่องจากดื่มเหล้าเมาแล้วมาโวยวายใส่ตนและพี่ชาย ซึ่งมาบังคับขอเงิน จะเอาไปซื้อเหล้าอีก แต่ตนไม่มีเงินจะให้แล้ว เพราะเวลาที่ลูกขอก็ให้ครั้งละ 20 – 30 บาท ก็ให้ตลอด ลูกเอาไปซื้อเหล้าดื่มจนเมา
ที่ผ่านมาก็เคยก่อเหตุจุดไฟเผาบ้านมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่โชคดีที่ตอนนั้นดับทัน มีข้าวของเสียหายบางส่วน แต่ครั้งนี้ทั้งบ้านและข้าวของไหม้เสียหายทั้งหมดไม่มีอะไรเหลือ ตอนเกิดเหตุตนก็คว้าได้แค่ตะกร้าหมากหนีตายเอาตัวรอดเท่านั้น ไม่สามารถเอาทรัพย์สินอย่างอื่นออกมา เสียใจมากที่ลูกชายทำแบบนี้ ครั้งนี้ไม่ให้อภัยแล้ว ก็ปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายเลย ไม่มีเงินไปประกันตัว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายจตุรงค์ อยู่ในสภาพมึนเมา เมื่อสอบถามว่าเป็นคนก่อเหตุเผาบ้านจริงหรือไม่ ก็ยอมรับว่าเป็นคนเผาเอง พร้อมโชว์ไฟแช็กให้ตำรวจดู เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเจ้าตัวยังบอกด้วยว่า วันนี้ดื่มเหล้าขาวมาแล้ว 4 ขวดเล็ก น้อยใจที่ขอเงินแม่และพี่ชายไม่ได้ ตอนแรกน้อยใจกะจะฆ่าตัวตายเอง แต่ไม่ทำ เปลี่ยนมาเผาบ้านแทน เมื่อถามว่าเผาบ้านวอดหมดแล้วจะไปอยู่ที่ไหน นายจตุรงค์ ก็บอกว่าจะไปอยู่ฮ่องกง (เรือนจำ) ส่วนคนอื่นจะไปอยู่ไหนก็เรื่องของเขา
