ทนายตั้ม รับลูกความเคยให้เงิน 71 ล้านบาท

View icon 239
วันที่ 24 ต.ค. 2567 | 16.41 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - กลายเป็นเรื่องเป็นราวเมื่อ "ทนายตั้ม" ทนายคนดัง ถูกอดีตลูกความนักธุรกิจมหาเศรษฐี แจ้งความในข้อกล่าวหาฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท อ้างว่า ถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์มทำสลากฯ ออนไลน์ โดยทนายตั้มออกมาชี้เแจงผ่านรายการดังทันทีว่า ได้มาโดยเสน่หา

ทนายตั้ม รับลูกความเคยให้เงิน 71 ล้านบาท
เรื่องนี้ เริ่มแรกเกิดจากเมื่อวาน ในรายการ "โหนกระแส" ของ "หนุ่ม กรรชัย" ได้สอบถามเรื่องที่ประชาชนสงสัยในตัว "ทนายตั้ม" ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ หลังมีข้อครหาถูกหลายคนเรียกว่า "ทนายสีเทา" จากการที่ใช้ของแบรนด์เนม ดูร่ำรวยเกินกว่าอาชีพทนายทั่วไป

ทนายตั้ม เล่าว่า เงินเหล่านี้ได้มาจากลูกความคนหนึ่งที่เป็นมหาเศรษฐี อยู่ต่างประเทศ ทำธุรกิจหลายอย่างในประเทศไทย จ้างให้ตนช่วยดูแลทำธุระต่าง ๆ ในเมืองไทย ที่เห็นว่าตนไปเมืองนอก ตนไปกับลูกความ รายได้ต่าง ๆ ได้มาจากมหาเศรษฐีคนนี้เป็นส่วนใหญ่ ให้เงินเดือนตนเดือนละ 300,000 บาท หลังจากนั้น ไม่ได้ให้เงินเดือน แต่ให้เงินทุนตนมา 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท เพื่อจะเอาเงินจากต่างประเทศเข้ามาในไทย โดยตนก็หาวิธีทำโพรเจกต์อะไรต่าง ๆ เพื่อรับเงินเข้ามาในไทย โดยไม่เสียภาษี 40 เปอร์เซ็นต์ โดยเขาให้เงินตนมาด้วยความเสน่หาจริง ๆ และเอ็นดูครอบครัวตน ยืนยันว่า ยินดีพร้อมให้ตรวจสอบได้หมด

อดีตลูกความแจ้งความถูกฉ้อโกง 71 ล้านบาท
จากนั้นช่วงค่ำวันเดียวกัน (23 ต.ค.) เพจเฟซบุ๊ก "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้แชร์รายงานข่าวของผู้จัดการรายวันที่เผยแพร่ช่วงดึก ระบุว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ นักธุรกิจสาวที่มีกิจการในต่างประเทศและในไทย ในฐานะผู้เสียหาย มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความทนายตั้ม ข้อกล่าวหาฉ้อโกง ที่ สภ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา

โดยอ้างว่า พฤติกรรมทนายตั้มเริ่มจาก ผู้เสียหายว่าจ้างบริษัททนายตั้มเป็นที่ปรึกษากฎหมาย ดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ทำสัญญาว่าจ้างเดือนละ 300,000 บาท ต่อมาปลายปี 2565 ต่อเนื่องต้นปี 2566 ทนายตั้มบอกผู้เสียหายว่า ได้รับโควตาสลากกินแบ่งรัฐบาลมาจากผู้ใหญ่ที่นับถือ ให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ นักธุรกิจเห็นว่าการขายสลากออนไลน์น่าจะเป็นไปได้ จึงตอบตกลง 

ต่อมาทนายตั้มเปิดบัญชีธนาคารในชื่อตนเอง เพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินค่าจ้างเขียนโปรแกรมไปยังบัญชีของตนเองเป็นเงิน 71 ล้านบาท ต่อมาผู้เสียหายติดตามความคืบหน้าการซื้อระบบโปรแกรมสลากออนไลน์ แต่ได้รับคำตอบว่า ยังทำไม่เสร็จ จึงเป็นสาเหตุทำให้ต่อมาผู้เสียหายยกเลิกสัญญาจ้างบริษัทของทนายตั้ม ลงวันที่ 25 มกราคม 2567

กระทั่งวันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการส่งมอบงานตามสัญญา แต่ฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้รับมอบระบบโปรแกรมตามสัญญา ดังนั้นวันที่ 8 กันยายน 2567 ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจให้ทนายติดตามทวงเงิน 71 ล้านบาท คืนจากทนายคนดังกล่าว แต่ไม่ได้คืนเงิน และไม่ติดต่อกลับมา จึงมอบอำนาจให้ทนายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทนายตั้ม ท้าพนัน สนธิ ดื่มฉี่
ต่อมาช่วงคืนวันเดียวกัน (23 ต.ค.) ทนายตั้ม โพสต์ข้อความผ่านเพจ "ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ" ระบุว่า พี่สนธิ ลงข่าวว่าผมฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน พนันกันไหมใครหน้าแหก ดื่มปัสสาวะ 71 แก้ว

ทนายตั้ม แจงโดนใส่ร้าย จ่อแจ้งความกลับพรุ่งนี้
ต่อมาในช่วงเช้าวันนี้ (24 ต.ค.) ทนายตั้ม ยังชี้แจงผ่านรายการ "เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand" ยืนยันว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว เคยได้รับว่าจ้างให้ดูแลธุรกิจทั้งหมดของนักธุรกิจ อ. ทั้งในประเทศไทย และที่ฝรั่งเศส ให้ค่าตอบแทนเดือนละ 300,000 บาท

ต่อมา เดือนมกราคม ปี 2566 คุณ อ. บอกว่า ตอนนี้เหมือนพี่น้องกันแล้ว ไม่อยากให้เงินเดือนตนแล้ว ตนจึงขอเงินก้อนหนึ่ง เพื่อนำมาดำเนินชีวิตและทำธุรกิจ แต่มีข้อตกลงว่า จะต้องดูแลคดีที่ฝรั่งเศสและคดีที่ไทยให้จนเสร็จ หนึ่งในธุรกิจที่ตนอยากทำ คือ แพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ บอกว่า ต้องใช้ทุนประมาณ 2 ล้านยูโร โดยคุณ อ. ก็ตกลงให้ง่าย ๆ โดยก่อนหน้านี้ นักธุรกิจ อ. ไม่ได้ร่ำรวย แต่กลายเป็นมหาเศรษฐี เพราะถูกลอตเตอรี่หลักเกือบหมื่นล้านบาทไทย

ทนายตั้มยืนยันว่า เงิน 71 ล้านบาทดังกล่าว ไม่ใช่เงินที่โอนมาเพื่อร่วมลงทุน ไม่มีใครทำแพลตฟอร์มสลาก 71 ล้านบาท แต่ทำสัญญาแค่ไปโชว์กับทางฝรั่งเศส เพื่อไม่ต้องเสียภาษีในการโอนเงิน เพราะถ้าโอนให้โดยตรงจะต้องเสียภาษีที่ฝรั่งเศส 40% ซึ่งวันนั้นโอนมาทั้งหมด 3 ล้านยูโร แต่เข้าบัญชีตน 2 ล้านยูโร คิดเป็นเงินไทย 71 ล้านบาท โดยในปี 2566 เขาโอนเงินมาให้ตน แต่เข้าบัญชีของเลขาของนักธุรกิจ อ. ก่อนนำมาให้ตน

ซึ่งเลขาของคุณ อ. เป็นเพื่อนกับคุณ อ. ตั้งแต่เด็ก ช่วงแรกตนกับเลขาก็ดีกัน แต่ช่วงต้นปีมีปัญหากับเลขา และมีปัญหากันเรื่อยมา ทำให้ต่อมามีทนายความส่งหนังสือมาจะขอเงินคืน ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องตามที่เขาอ้างมา เรื่องนี้เป็นการเต้าขึ้นมาเพื่อจะหาเรื่องดำเนินคดีตน คุณ อ. เป็นคนที่เชื่อคนใกล้ตัวมาก และเป็นคนดีมาก ทำบุญทีหนึ่งร่วม 10 ล้านบาทตลอด

ส่วนที่มีการแจ้งความดำเนินคดีตนที่ สภ.ปากช่อง นั้น เป็นการพยายามหาวิธีทำให้ตนเสียหาย และเชื่อว่า ถ้าได้คุยกับคุณ อ. จริง ๆ เรื่องนี้จบลงแน่นอน แต่วันนี้ตนเกิดความเสียหาย ดังนั้นวันพรุ่งนี้ (25 ต.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ สภ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ตนจะยื่นดำเนินคดีกับคนที่แจ้งความตน ในเรื่องของการแจ้งความเท็จ และกลั่นแกล้งให้ผู้อื่นรับโทษทางอาญา

ตร.แจงสอบพยานแล้ว 3 ปาก ปมเงิน 71 ล้านบาท จ.นครราชสีมา
ทีมข่าวลงพื้นที่ไปที่ สภ.ปากช่อง เพื่อสอบถามเรื่องนี้ แต่ พันตำรวจเอก วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผู้กำกับการ สภ.ปากช่อง เดินทางไปราชการในต่างจังหวัด จึงสัมภาษณ์ผ่านทางโทรศัพท์ ชี้แจงยอมรับว่า ผู้เสียหายมอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับทนายดังตามที่เป็นข่าวในข้อหาฉ้อโกงจริง ตอนนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นสอบพยานไปแล้ว 3 ปาก ส่วนจะใช้เวลากี่วันนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ เมื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ให้รัดกุม มีความรอบคอบแล้ว ก็จะมีการสรุปว่าจะมีความผิดข้อหาใดบ้าง ก็จะต้องเรียกทางทนายรายดังกล่าว มาสอบสวนว่าจะมีความผิดในข้อหาใด ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

สนธิ จ่อเปิดโปง ทนายตั้ม ซัดแค่เด็กเมื่อวานซืน
ล่าสุด นายสนธิ ลิ้มทองกุล ตอบโต้ทนายตั้มทันทีว่า ไม่ได้เป็นคู่กรณีเลยแม้แต่นิดเดียว ข่าวที่ลงไปเป็นข่าวที่ทีมงานมีข้อมูลอยู่แล้ว แล้วตนก็มีข้อมูลตั้งนานแล้ว แต่ทนายตั้มมาพาดพิง ทนายตั้มพยายามโทร.หาตนเมื่อวันจันทร์ (21 ต.ค.) และขอพบด่วนวันพุธ (23 ต.ค.) เขาบอกว่า พี่สนธิมีอะไรเข้าใจผิดกัน แต่ตนบอกว่า ช่วงนี้เป็นประธานกฐินทุกอาทิตย์ ไม่มีเวลา ทำให้วันพุธนี้เจอไม่ได้ แต่ถ้าพร้อมจะเจอ จะบอกเวลาให้ แต่หลังจากนั้นเขาติดต่อตนไม่ได้ วันพุธเขาไปออกโหนกระแสก็พูดเรื่องนี้ทันที เด็กคนนี้มันเด็กเมื่อวานซืน และเป็นทนายที่ไม่มีราคาสำหรับตนแม้แต่นิดเดียว เมื่อเด็กท้าตีท้าต่อย ก็เลยตัดสินใจว่า วันศุกร์นี้ (25 ต.ค.) จะเปิดให้หมดว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ตนจะจัดให้คุณเอง ขอให้คุณษิทรารอฟัง เขาเรียกว่าคุณแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง

เผย ทนายตั้ม เคยพานักธุรกิจ อ.ร่วมแถลงปี 66
สำหรับ คุณ อ. ซึ่งเป็นคู่กรณีกับทนายตั้ม มีการอ้างว่า ได้เข้าไปซื้อกิจการธุรกิจร้านขนมชื่อดัง ที่มีประวัติยาวนาน ในเมืองสตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส โดยทางเพจเฟซบุ๊กของร้าน มีการประกาศลงหน้าเพจเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2566 นอกจากนี้ยังทำธุรกิจบริษัทเกี่ยวกับการจัดการกองทุน และบริษัทเช่าที่ดินและอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ อีกด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ทนายตั้มเคยพา คุณ อ. และเลขาคุณ อ. มาร่วมแถลงข่าวชี้แจงความสัมพันธ์ หลังช่วงนั้นทนายตั้มเจอดรามาเกี่ยวกับการใช้ชีวิตหรูหรา รวมทั้งบินไปประเทศฝรั่งเศสบ่อยครั้ง ซึ่งครั้งนั้นทนายตั้มชี้แจงว่า เดินทางไปฝรั่งเศสบ่อย เพราะต้องไปว่าความให้กับ คุณ อ. มหาเศรษฐีคนไทย รู้จักกับคุณ อ. ตั้งแต่ตอนที่บริจาคเงินซื้อวัคซีนให้คนไทยช่วงโควิดระบาดร่วม 20 ล้านบาท ขณะที่ครั้งนั้น คุณ อ. ชี้แจงว่า ประกอบธุรกิจทำร้านขนมเค้กกับแฟนที่ฝรั่งเศส ติดตามทนายตั้มในฐานะแฟนคลับ และว่าจ้างเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย คอยประสานงานกับฝ่ายกฎหมายที่ฝรั่งเศส

เพจดังเปิดงบบริษัท ทนายตั้ม งงรวยในปีเดียว
ขณะที่เพจดัง CSI LA ได้โพสต์ผ่าน X เปิดงบบริษัทของทนายตั้ม ตั้งแต่ปี 2565-2566 โดยระบุข้อความว่า #ทนายแบรนด์เนม อ้างว่าบริษัทมีรายได้ 20 กว่าล้าน แจ้งกำไรแค่ 3.4 ล้านบาท ในปี 2565 รายได้ปี 2566 ขาดทุน 6 ล้าน

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก CSI LA ยังโพสต์ ระบุข้อความว่า รวยฟ้าผ่าภายในปีเดียว เพราะมีคนใจบุญสุนทานเงินเหลือเยอะ ให้มาแบบนี้นี่เอง ทั้ง ๆ ที่ต้นปี ยังร้องไห้ไม่มีเงินให้ลูกกิน และตัวละครที่มาให้ ยังแสร้งทำเป็นโพรเจกต์เพื่อเลี่ยงภาษี ใครปล่อยมา ตกลงทำแบบนี้ได้ไม่ผิดกฎหมายแล้วใช่ไหม

ขอบคุณภาพจาก : Facebook คุยทุกเรื่องกับสนธิ, CSI LA

ข่าวที่เกี่ยวข้อง