วันนี้ (24 ต.ค. 67) เมื่อเวลา 15.00 น. ที่ผ่านมา น.ส.เพ็ญพักตร์ แหล้ยัง อายุ 42 ปี ชาว ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งเป็นพนักงานขายตัวรถโดยสาร บริษัทสงวนชัยทัวร์ บขส.อุดรธานี แห่งที่ 1 นำหลักฐานคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิด และรูปภาพจากกล้อง CCTV เทศบาลนครอุดรธานี คนที่เก็บกระเป๋าเงินได้ แต่ไม่ยอมนำมาแจ้งตำรวจติดตามหาเจ้าของ มอบให้ ร.ต.ท.หญิง นีรนุช บุตตเขียว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ติดตามคนที่เก็บกระเป๋าของตนได้นำมาคืน หากไม่นำมาคืนก็จะดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายให้ถึงที่สุด หลังเข้าแจ้งความไว้เมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 22 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา
น.ส.เพ็ญพักตร์ เปิดเผยว่า จาการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ระบุเวลา 09.01 น. วันที่ 22 ต.ค. 67 พบชายอายุประมาณ 40-45 ปี ขี่รถจักรยานยนต์ สีขาว ทะเบียน 1 กม 7441 ชลบุรี รูปร่างท้วม ผมสั้น สวมแว่นกันแดด เสื้อยืดคอกลมแขนสั้น สีน้ำเงิน กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าแตะ สะพายกระเป๋าคาดอกสีแดง ขี่รถตามหลังรถจักรยานยนต์ตน ขณะที่ตนขี่รถออกจากบ้านไปส่งลูกสาววัย 2 ขวบ 10 เดือน ที่โรงเรียน โดยลูกสาวนั่งด้านหน้ารถ และแขวนกระเป๋าเงินแบบผ้า สีขาว-น้ำตาล มีรูปแมวการ์ตูน ไว้ที่แฮนด์รถด้านซ้าย ระหว่างทางโค้งแล้วหล่นลงริมถนน ระหว่างชุมชนผาสุก-ซอยสุวรรณ ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี
เมื่อชายคนดังกล่าวเห็นกระเป๋าได้วนรถกลับมาเก็บเอาไป และไม่ยอมขี่รถตามมาส่งคืนให้ตน ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าตนทำกระเป๋าเงินหล่น เมื่อส่งลูกถึงโรงเรียน พบว่ากระเป๋าเงินหายไป จึงเข้าแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน เผื่อมีพลเมืองดีเก็บได้แล้วนำมาแจ้งตำรวจตามหาเจ้าของมารับคืน แต่ผ่านไป 2 วัน ก็ไร้วี่แวว จึงไปขอดูกล้องวงจรปิดเทศบาลนครอุดรธานี จึงรู้ว่ามีคนเก็บได้แต่ไม่ยอมนำมาแจ้งตำรวจ โดยข้างในกระเป๋ามีเงินสดที่ขายตั๋วรถทัวร์ให้ผู้โดยสารช่วงเช้า และเงินส่วนตัว รวมจำนวน 12,000 บาท แหวนทองคำ หนัก 1 สลึง 1 วง และกุญแจรถจักรยานยนต์ 1 ดอก
น.ส.เพ็ญพักตร์ บอกอีกว่า ตนเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว รู้สึกเสียใจมากหลังได้เห็นคลิป ขณะที่คนเก็บกระเป๋าเงินของตนได้ แต่ไม่ยอมขี่รถตามนำมาส่งคืน หากตอนนั้นขี่รถตามมาส่งคืนให้ตน ก็จะให้ค่าตอบแทนสินน้ำใจ ถือว่าเป็นพลเมืองดี แต่กลับมีพฤติกรรมเป็นโจร และเข้าข่ายลักทรัพย์ของคนอื่น ฝากถึงคนที่เก็บกระเป๋าเงินตนได้ ขอให้นำมาส่งคืนให้ตน ก็จะไม่เอาเรื่อง หากไม่นำมาคืน และถูกตำรวจติดตามจับตัวได้ก็จะติดคุกเสียอนาคต เนื่องจากหลักฐานชัดเจนมาก
อย่างไรก็ตาม ฝากถึงคนทั่วไปที่เก็บของคนอื่นได้แบบนี้ ซึ่งไม่ใช่เป็นของตนเอง ควรนำมาแจ้งตำรวจติดตามหาเจ้าของจะดีกว่า เพราะทุกวันนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดี เงินทองก็หาอยาก กว่าจะได้แต่ละบาทมาเลี้ยงครอบครัวและซื้อนมให้ลูกกิน
ทั้งนี้การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 406 ซึ่งเป็น “ลาภมิควรได้” คือ การที่บุคคลหนึ่งได้ทรัพย์สิ่งใดมาโดยปราศจากมูลอันจะอ้างกฎหมายได้ และเป็นทางให้บุคคลอีกคนหนึ่งเสียเปรียบ บุคคลที่ได้ทรัพย์มานั้นมีหน้าที่ต้องคืนทรัพย์ให้แก่เขา