เช้านี้ที่หมอชิต - หลังเมื่อวานนี้เราเสนอข่าว "พันตำรวจเอก" ขึ้นเวทีธุรกิจดิไอคอนกรุ๊ป วันนี้เจ้าตัวชี้แจง เป็นคลิปเก่าเมื่อ 6-7 ปี ในงานสัมมนาธุรกิจขายตรง อีกบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป เป็นสมาชิกมาเรียนรู้การตลาด ยืนยันสิ่งที่พูดไม่มีสคริปต์
รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสระบุรี ยอมรับว่า แต่งกายแต่งยศ และที่พูดไปบนเวทีไม่มีสคริปต์ และ ต้องการสื่อให้ทุกคนเข้าใจว่าตนเป็นตำรวจ แต่ก็ยังสามารถทำอาชีพเสริมที่สุจริตได้ พร้อมยืนยันว่า ไม่ใช่ "บอสตำรวจ" ของดิไอคอนกรุ๊ป
กรณีที่ถูกโยงก็ทำให้เครียด แต่ก็เชื่อว่าจะชี้แจงได้ ส่วนที่มีรายงานว่า วันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา ตำรวจ ปปป. จะเรียกไปให้ปากคำ ตนเองพร้อมให้ความร่วมมือ
เรื่องดังกล่าว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ปล่อยผ่าน สั่งให้สอบ 2 ประเด็น ว่า พูดชักชวนคนลงหรือไม่ และเรื่องแต่งเครื่องแบบตำรวจสามารถทำได้หรือไม่ ใช้เวลาราชการไปทำหรือไม่ ให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบทางวินัย และรายงานผลกลับมาที่ตัวเองภายใน 2 วัน
ส่วน ทนายบอสพอล วานนี้ได้ไปที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ขอโทรศัพท์มือถือคืนให้พนักงานบริษัท บอกว่า จะเดินหน้าดำเนินคดีนักร้องเรียนหญิง, เอก สายไหมต้องรอด, ทนายชื่อดังที่เคยมาไถเงิน 7 ล้านบาท, "แม่ข่าย" ที่ขัดผลประโยชน์ แล้วทำเหมือนว่าตัวเองเป็นผู้เสียหาย
ทาง "พัช กฤษอนงค์" ก็มาชี้แจง 3 ประเด็นหลัก ๆ โดยเฉพาะเรื่องเงิน 10 ล้านบาท ที่ถูกกล่าวหาว่าตบทรัพย์ ส่วนแบ่ง 20% จากฝั่งบริษัทและจากฝั่งผู้เสียหาย 89 คน และเรื่องเงิน 600,000 บาท ที่ถูกกล่าวอ้างว่า รีดไถ "บอสพอล" เธอยืนยันว่าไม่จริง
ด้าน พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI แถลงรับคดีฟอกเงินของดิไอคอนกรุ๊ป เป็นคดีพิเศษ หลังเข้าเงื่อนไข มีทรัพย์สินที่ต้องสงสัยว่าได้มาจากการกระทำผิดมูลค่าเกินกว่า 300 ล้านบาท ส่วนเรื่องฉ้อโกง ส่วนอื่น ๆ ยังเป็นของตำรวจ เพื่อไม่ซ้ำซ้อน
จากคดีที่เกิดขึ้น ทางนายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.พรรคประชาชน ในฐานะ กมธ.คุ้มครองผู้บริโภค ขอรัฐบาลสั่งย้ายเทวดา สคบ.เพราะกลัวว่าหลักฐาน จะถูกโยกย้ายและทำลาย เรียกร้องให้ ดีเอสไอ ทำคดี เพราะเคยร้องเรียนให้ตรวจสอบวินัยข้าราชการระดับผู้อำนวยการมาแล้ว ผ่านมา 2 ปี เรื่องยังเงียบ
ส่วนการเยี่ยมผู้ต้องหา "บอสฝ่ายชาย" วานนี้แม่ของบอสพอล เดินทางมาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่เมื่อนักข่าวถาม กลับปฏิเสธไม่ใช่แม่บอสพอล แล้วก็วิ่งหนีกลับ และยังมีภรรยาของแซม ยุรนันท์ เข้าเยี่ยมตอนบ่าย แต่ก็เลี่ยงไม่เจอนักข่าวเช่นกัน
ส่วนภรรยาของ "บอสกันต์" มีเพียงภาพของบุคคลที่ดูคล้าย ไม่ยืนว่าใช่หรือไม่ เนื่องจากผู้ต้องขังไม่อนุญาตให้เปิดเผย
"แพท พาวเวอร์แพท" เผยประสบการณ์ในเรือนจำ สิ่งที่จะเจอก็คือความกังวลใจ เรื่องคดี การใช้ชีวิต ยิ่งเป็นดารา ก็จะถูกผู้ต้องขังมองว่า "หยิ่ง" หรือมีอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่น ๆ ตนเองใช้เวลาเดือน กว่า ๆ ถึงจะปรับตัวได้ สิ่งที่จะตัดความกังวลก็คือหากิจกรรมทำ เชื่อว่าดารา นักแสดงในคดีนี้ ดีกว่าช่วงที่ตนเองติดคุก เพราะอย่างน้อยมีเพื่อนไปหลายคน