แม่ค้าร้านจำหน่ายน้ำกะทิ ติดป้ายประกาศขอขึ้นราคา หลังทนแทบต้นทุนไม่ไหว

แม่ค้าร้านจำหน่ายน้ำกะทิ ติดป้ายประกาศขอขึ้นราคา หลังทนแทบต้นทุนไม่ไหว

View icon 38
วันที่ 25 ต.ค. 2567 | 08.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แม่ค้าร้านจำหน่ายน้ำกะทิ ติดป้ายประกาศขอขึ้นราคา หลังทนแทบต้นทุนไม่ไหว ขณะที่พ่อค้าข้าวหลามและขนมจากโอด รับผลกระทบทำให้ต้นทุนทำขนมเพิ่มขึ้น จ่อขึ้นราคา

วันที่ 25 ตุลาคม 2567ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจราคากะทิคั้นสด หลังพบว่ามีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ร้านเจ้แอนน้ำกะทิคั้นสด หน้าบ้านเอื้ออาทรเขาแตงอ่อน ต.สุรศักดิ์  อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พบว่ามะพร้าวแก่ที่เป็นวัตถุดิบนำมาใช้คั้นกะทิสดมีการปรับราคาขึ้นอย่างต่อเนื่อง และขาดตลาด ทำให้วันนี้ราคาขายกะทิสดขึ้นสูงถึง กก.ละ 90 บาท และมีแนวโน้มสูงถึง กก.ละ 100 บาท พร้อมติดป้ายแจ้งให้ลูกค้าทราบการปรับราคาน้ำกะทิคั้น เพื่อแจ้งให้ลูก

นางสาวจิตรนภา อายุ 48 ปี เจ้าของร้านขายกะทิคั้นสด เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองเพิ่งเปิดร้านได้ประมาณช่วงต้นปี ซื้อมะพร้าวเพื่อใช้คั้นกะทิสดจากชาวสวนในตอนแรกเริ่มต้นที่ลูกละ 25 บาท นำมาคั้นเป็นกะทิสดขายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท แต่ทางสวนมะพร้าวได้ทำการแจ้งก่อนแล้วว่ามะพร้าวจะขาดเริ่มจะหายากและเริ่มปรับราคามาเป็น ลูกละ 27 บาท ทางร้านก็ยังพยุงราคายังคงขายในราคากิโลกรัมละ 70 บาท อยู่ยังไม่ปรับขึ้นราคา จนมะพร้าวขยับมาถึงลูกละ 30  บาท

ทางร้านจึงปรับขึ้นราคามาเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท ทางสวนก็บอกอีกว่ารอบหน้ามะพร้าวจะเป็นลูกละ 35 บาทแล้วนะทางร้านก็ต้องปรับราคาขึ้นอีก แต่ทุกครั้งที่เราปรับราคาขึ้นเราตะแจ้งให้ลูกค้าทราบก่อนโดยเฉพาะลูกค้าประจำปัจจุบันนี้ทางร้านซื้อมะพร้าวในราคาลูกละ 35 บาทจึงจำเป็นต้องขายกะทิคั้นสดในราคากิโลกรัมละ 90 บาท

โดยทางสวนมะพร้าวเองบอกกับทางร้านว่าเหตุที่มะพร้าวแพง เพราะว่าด้วงมันกินยอดทำให้ต้นมะพร้าวตายทำให้มีผลผลิตน้อยและการเติบโตของมะพร้าวต้องใช้ระยะเวลาเมื่อสอยลูกแก่ไปแล้วก็ต้องรอให้ผลเล็กกว่าเจริญเติบโตมาแทนที่ ซึ่งมะพร้าวแต่ละขนาดก็จะใช้ประโยชน์ไม่เหมือนกันราคาต่างกัน แต่มะพร้าวแก่ที่นำมาใช้คั้นกะทิจะราคาแพงที่สุดซึ่งตอนนี้ตกลูกละ 35 บาท
    
ขณะที่ นายเอื้อ อายุ 50 ปี พ่อค้าขายข้าวหลามกับขนมจาก กล่าวว่า เริ่มแรกซื้อกะทิใช้กิโลกรัมละ 65 บาทแต่ในตอนนี้ต้องซื้อในราคา 80-90 บาทซึ่งเป็นราคาที่แพงขึ้นมากส่วนทางร้านเองใช้กะทิประมาณวันละ 5 กิโลก็ตกประมาณ 400-500 บาทในการซื้อน้ำกะทิ และยังไม่รวมถึงวัตถุดิบอื่นๆอีก ซึ่งในอนาคตถ้าราคายังแพงอยู่ก็อาจจะต้องขึ้นราคาสินค้าแต่ในตอนนี้ทางร้านเองก็ยังคงขายในราคาปกติอยู่เพราะเห็นใจและสงสารลูกค้า

ข่าวที่เกี่ยวข้อง