ผวาหวั่นถล่ม! เพื่อนบ้านต่อเติมสุดหวาดเสียว ก่อผนังสูง ไม่มีเสาคาน

View icon 70
วันที่ 25 ต.ค. 2567 | 16.03 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - อดีตแม่ชีต่อเติมบ้านสุดหวาดเสียว ก่อผนังบ้านสูงลิ่ว ไม่มีเสาคาน จนเพื่อนบ้านหวั่นพังถล่มทับ พอเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบ กลับถูกชี้หน้าด่า

หญิงสาวเจ้าของบ้าน ชี้หน้าด่าเจ้าหน้าที่ อบต. ผู้ใหญ่บ้าน และคนข้างบ้าน หลังจากไปร้องเรียนว่า บ้านของเธอต่อเติมหวาดเสียว ไม่ขออนุญาต 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่บ้านกุดหิน หมู่ 8 ตำบลโคราช จังหวัดนครราชสีมา เพื่อนบ้านร้องเรียนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น บอกว่า บ้านที่อยู่ติดกัน เจ้าของบ้านต่อเติมชั้น 2 ด้วยอิฐบล็อกเป็นผนังสูงลิ่ว เสาก็ยังไม่เทปูน ไม่มีคานรองรับน้ำหนัก ไม่มีโครงหลังคา ส่วนผนังหากวัดจากพื้นสูงประมาณ 8-9 เมตร สูงแบบผิดปกติ กลัวผนังอิฐบล็อกพังถล่มลงมาทับบ้านที่อยู่ติดกัน ดูแล้วไม่มีความแข็งแรง พังถล่มได้ทุกเมื่อ ที่สำคัญบ้านหลังนี้ก่อสร้างตามอำเภอใจ ไม่มีแบบแปลน ไม่มีการขออนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่น

วันนี้ นายสุชาติ ยาวิศิษย์ นายก อบต. ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าต่อเติมชั้น 2 จนน่าหวาดเสียว ซุ้มเชิงเสาประตูทางเข้าบ้านมีการก่อปูนปั้น เป็นเสาขนาดใหญ่ โดยแนวเสารุกล้ำเข้ามาบนถนน และร่องระบายน้ำพื้นที่สาธารณะ

ชายอายุ 47 ปี เพื่อนบ้านที่รั้วติดกัน บอกว่า บ้านที่ต่อเติม เจ้าของบ้านเป็นอดีตแม่ชี ไปบวชมา 8 ปี แล้วกลับมาใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้เมื่อช่วงกุมภาพันธ์ผ่านมา จากนั้นก็ต่อเติมบ้านจากชั้นเดียวเพิ่มเป็น 2 ชั้น ก่อผนังชั้น 2 สูงลิ่ว และยังปล่อยน้ำเสียไหลเข้าบ้านตน เศษอิฐเศษปูนกระเด็นเข้ามาในบ้าน ตอนนี้ลูกเมียไม่กล้านอนบ้าน ย้ายไปนอนบ้านญาติแทน เคยไปบอกให้แก้แต่มีปากเสียงกันรุนแรง
 
ด้าน เจ้าของบ้านพูดแบบมีอารมณ์ บอกว่า หลังบวชชีมา 8 ปี สึกออกมาใช้ชีวิตอยู่บ้านเกิด ต่อเติมบ้านหลังนี้ที่พ่อทิ้งไว้เป็นมรดก เดิมทีพ่อทำโครงสร้างบ้านไว้ให้ เป็นบ้าน 2 ชั้น อยู่แล้ว พอมีเงินอยู่บ้าง จึงจ้างช่างมาต่อเติมชั้น 2 โดยไม่รู้ว่าต้องขออนุญาตก่อสร้าง ส่วนซุ้มประตูเข้าบ้านก็ลงทุนลงแรงทำไปแล้ว แต่ไม่มีใครมาแจ้งเตือน มาตอนนี้จะให้รื้อถอน คิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรม มีแต่คนกลั่นแกล้ง ตอนนี้ไม่มีเงินจะรื้อถอนแล้ว

นายสุชาติ ยาวิศิษย์ นายก อบต.โคราช กล่าวว่า เคยพูดคุยตักเตือนไปหลายรอบ แต่เจ้าของบ้านไม่เชื่อฟัง จึงทำหนังสือสั่งให้รื้อถอนอาคารภายใน 30 วัน จะครบกำหนดในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ หากยังดื้อรั้น ต้องแจ้งความเอาผิด บังคับใช้กฎหมายขั้นเด็ดขาดต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง