จับกุมชาวบังคลาเทศ 27 คน ชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย เพื่อจะไปทำงานที่มาเลเซีย
เมื่อวันที่ 27 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทหารสังกัดกองกำลังบูรพา กำลังพลร่วมเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบของ ร้อย.ทพ.1204 ซึ่งขณะทำการเฝ้าตรวจ ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยไม่ทราบสัญชาติเดินเท้ามาตามช่องทางธรรมชาติ จากฝั่งกัมพูชา เข้ามายังฝั่งไทย ข้ามแนวถนนเข้ามา บริเวณไร่อ้อย ด้านหลัง จุดตรวจ อ.64 บ.ผ่านศึก เขต 3 ม.5 ต.ผ่านศึก อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว
เจ้าหน้าที่่ชุดเฝ้าตรวจ จึงแสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ และสอบถามทราบว่าเป็นบุคคลสัญชาติบังกลาเทศ จำนวน 27 คน ทั้งหมดเป็นชาย มีความต้องการไปหางานทำที่ประเทศมาเลเซีย เสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง หรือค่าหัวคนละ 400,000 ตากา หรือประมาณ 112,000 บาท จากประเทศบังกลาเทศเพื่อไปมาเลเซีย โดยผู้นำพา สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางหรือเอกสารแสดงตน พบเอกสารหนังสือเดินทาง (Passport) จึงได้เชิญตัวมาดำเนินการซักถามเพิ่มเติมร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ตม.จว.สระแก้ว และนำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม ณ ที่ทำการกองร้อย.ทพ.1204
จากการสอบสวนเพิ่มเติม ชาวบังกลาเทศทั้งหมดให้การว่า ได้เดินทางจากประเทศบังกลาเทศ โดยการนั่งเครื่องบิน เมื่อวัน ที่ 22 ต.ค. มาลงที่สนามบินฮานอย ประเทศเวียดนาม และจะมีผู้นำพา นำเข้ามาทางเมืองบาเวต จ.สวายเรียง ประเทศกัมพูชา และนั่งรถมาที่กรุงปอยเปต และมีผู้นำพาชาวกัมพูชาพาข้ามเข้ามาฝั่งไทย เพื่อรอรถไปส่งยังกรุงเทพฯ และเดินทางต่อไปประเทศมาเลเซีย ภายหลังการซักถาม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวชาวบังกลาเทศทั้งหมด ส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและส่งฟ้องศาลต่อไป
อย่างไรก็ตาม พบว่า ปัจจุบันไทย ได้มีมาตรการควบคุม/เข้มงวดในการออกวีซ่าให้กับชาวบังคลาเทศ แต่ประเทศกัมพูชา และประเทศเวียดนาม ยังไม่มีการเข้มงวดการออกวีซ่าให้กับชาวต่างชาติ เข้าประเทศ จึงทำให้ชาวบังคลาเทศ เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารมาลงที่ประเทศกัมพูชา หรือประเทศเวียดนาม จากนั้นจะเดินทางลักลอบข้ามแดนเข้ามาไทยผ่านช่องทางชายแดนไทย-กัมพูชาด้าน จ.สระแก้ว โดยมีชาวกัมพูชา/ชาวไทยเป็นผู้นำพาข้ามแดนเข้ามาในไทย ส่วนใหญ่จะมีหนังสือเดินทาง (Passport) ถูกต้อง แต่จะลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ ไม่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง เนื่องจากไม่ต้องการทำวีซ่าเข้าประเทศไทย
ส่วนค่าจ้างการนำพาข้ามแดนจะเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมาก (ประมาณ 10,000-40,000 บาท/คน) ซึ่งจะสูงกว่าการนำพาชาวกัมพูชาข้ามแดน พื้นที่ที่พบการลักลอบมากที่สุด ได้แก่ ต.ผ่านศึก , ต.ทักพริก , ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จว.สระแก้ว ตรงข้าม อ.มาลัย จว.บันเตียเมียนเจย ของกัมพูชา เพราะมีช่องทางอนุโลมให้ราษฎรในพื้นที่ข้ามแดนตามวิถีคนชายแดนได้หลายแห่ง เมื่อชาวบังคลาเทศข้ามแดนเข้ามาฝั่งไทยแล้วจะเดินทางต่อไปยังพื้นที่พักคอยตอนในของไทย เช่น จว.ฉะเชิงเทรา จว.นนทบุรี จว.นครปฐม กทม. เป็นต้น จากนั้นจะเดินทางต่อไปทางภาคใต้ของไทยเพื่อลักลอบข้ามพรมแดนไปประเทศมาเลเซียต่อไป และจากการตรวจสอบเบื้องตันยังไม่พบว่าเป็นกลุ่มก่อการร้ายแต่อย่างใด