ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังพูดคุยกันจนได้ข้อสรุปว่าจะต้องมีการโอนสำนวนคดี "ดิไอคอนกรุ๊ป" ไปให้ DSI ดำเนินการ ตอนนี้ก็เข้าสู่ช่วงของการทำธุรการในทางคดี บอกเลยว่า เอกสารหลักฐานไม่ใช่น้อย ๆ
นั่นก็เพราะถ้าดูจากยอดของผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความกับตำรวจสอบสวนกลางที่เดียว 18 วัน นับตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมเป็นต้นมา พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำไปแล้วกว่า 3,500 คน ความเสียหายกว่า 1,2000 ล้านบาท
เท่ากับว่าเอกสารต่าง ๆ ที่อยู่ในมือตำรวจสอบสวนกลาง และหลักฐานทางคดี ก็ไม่ต่ำกว่า 3,5000 ชุด นี่ยังไม่นับของกลางในคดี ทรัพย์สินที่ยึดได้ มีอะไรที่ต้องให้ ปปง. รับไปพิจารณาขายทอดตลาดก่อน ไหนจะมีเรื่องของผู้ต้องล็อต 2 อีก
ข้อมูลทางข้างที่เราได้รับมา คือ ทาง DSI จะเร่งแกะข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมพยานหลักฐานไปก่อนหน้านี้ เพื่อดูความเชื่อมโยง และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงเรื่องการติดตามนำทรัพย์สินมาเฉลี่ยคืนให้ผู้เสียหายด้วย นี่ยังไม่นับรวมถึงกระบวนการหลังจากนี้ว่า DSI จะรับผิดชอบเองทั้งหมด หรือแบ่งส่วนไหนให้ตำรวจรับไปดำเนินการบ้าง เป็นเรื่องที่ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจในรายละเอียด
ส่วนเรื่องดรามาที่มีข่าวว่า "อัจฉริยะ" เข้าไปสอบปากคำ "โคชแล็ป" ในเรือนจำทำได้อย่างไร เจ้าตัวออกมาพูดเรื่องนี้อีกครั้ง ย้ำว่าเป็นคนละเรื่องกัน และการเข้าไปพบ "โคชแล็ป" ในเรือนจำ ก็เป็นการทำเอกสารขอเข้าไปอย่างถูกต้อง ยืนยันที่เข้าไปไม่ใช่การตีเนียน หรือใช้เส้นสายในการเข้าพบ
ด้าน ทนายของ "บอสพอล" เปิดเผยว่า ไม่หนักใจเรื่องที่ DSI จะรับไปดำเนินคดี เตรียมยื่นขอประกันตัว "บอส" ในเดือนพฤศจิกายน และเตรียมยื่นหนังสือเอาผิดกล่าวโทษแม่ข่ายที่สวมรอยเป็นผู้เสียหาย 5 คน ที่มีพฤติการณ์ชักชวนหาสมาชิกเพิ่ม โดยที่ "บอสพอล" ไม่รู้ เช่น ลูกตาล ชลธิชา, กบ ไมโคร, หนึ่งฟ้า, อโนทัย และผู้ชายอีกคน นอกจากนี้ยังมีอีก 15 คน รวมถึงยังมีอัยการ และภรรยา รวมอยู่ด้วย ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เทคนิคทางกฎหมาย หรือข่มขู่ผู้เสียหาย แต่เป็นคนที่เปิดบิล ชักชวนสมาชิกในเครือข่าย
ส่วนเรื่อง "โคชแล็ป" ทนายวิฑูรย์ เตรียมรับเป็นทนายมอบอำนาจในวันพรุ่งนี้ ยืนยันว่ารายชื่อเข้าเยี่ยม ที่ "โคชแล็ป" ต้องตรวจสอบก่อน ไม่มีชื่อ "อัจฉริยะ" เข้าเยี่ยม หากมีคงไม่อนุญาต ยังไม่มีแนวคิดฟ้องตำรวจที่มาสอบปากคำ
