พบซาก “กระทิง” เพศเมียวัย 15-20 ปี นอนตายในไร่สับปะรดของชาวบ้านใกล้ เขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี สัตวแพทย์ชี้ถูกกระทิงตัวผู้ทำร้ายมีรอยช้ำและเลือดคั่งบริเวณหน้าอกถึงสะโพก
จากกรณีเมื่อวานนี้ (27 ต.ค. 67) นายสมเจตน์ จันทนา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี เผยว่า นายอรรถพงษ์ เภาอ่อน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้รับแจ้งจากเกษตรกรชาวไร่สับปะรดว่า พบซากกระทิงตายในพื้นที่ปลอดภัยทางทหาร บริเวณท้ายไร่สับปะรด หมู่บ้านกระทุ่น ซอย 3 หมู่ 5 ต.เขาจ้าว อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ห่างจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติกุยบุรี 5 กิโลเมตร ทางนายอรรถพงษ์จึงมอบหมายให้ นายสนธยา หอมทั่ว หัวหน้าหน่วยพิทักษ์ กร.4 บ้านหุบมะซาง พร้อมเจ้าหน้าที่ 5 นาย เข้าตรวจสอบ พบซากกระทิงเพศเมีย ขนาดใหญ่ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน
วันนี้ (28 ต.ค. 67) นายนพพร อัคคมณี ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี พร้อมด้วยนายอนุรักษ์ สกุลพงษ์ สัตวแพทย์ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี และคณะ ได้เข้าตรวจสอบซากพบว่า กระทิง เป็นเพศเมีย โตเต็มวัย อายุประมาณ 15-20 ปี น้ำหนักประมาณ 800-1,000 กิโลกรัม จากการตรวจวัดซากพบว่ามีขนาดเขากว้างระหว่างปลาย 30 เซนติเมตร ส่วนที่กว้างที่สุด 50 เซนติเมตร เขาด้านนอกทั้งสองข้างยาว 60 เซนติเมตร ลำตัวสูง 170 เซนติเมตร ความยาวจากโคนหางถึงคอ 205 เซนติเมตร และหางยาว 80 เซนติเมตร
โดยผลการผ่าพิสูจน์ซากพบรอยช้ำและเลือดคั่งบริเวณหน้าอกถึงสะโพก โดยระยะห่างของรอยช้ำมีขนาดใกล้เคียงกับเขาของกระทิงเพศผู้ สัตวแพทย์จึงวินิจฉัยว่าน่าจะเสียชีวิตจากการถูกกระทิงเพศผู้ทำร้าย นอกจากนี้ยังพบรอยโรคลักษณะคล้าย “หูด” ตามร่างกาย
ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่ได้ทำการฝังกลบซากในพื้นที่เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรคสู่สัตว์ป่าชนิดอื่น และมอบหมายให้นายนพพร อัคคมณี เป็นผู้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรปราณบุรี
