สาวสุดช้ำใจ! โดนเพื่อนเป็นครู หลอกใช้ชื่อดาวน์รถ ก่อนเบี้ยวค่างวดจนถูกฟ้อง

View icon 158
วันที่ 29 ต.ค. 2567 | 11.44 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวบุรีรัมย์ สุดช้ำใจ! โดนเพื่อนที่เป็นครู หลอกใช้ชื่อดาวน์รถจักรยานยนต์ เพราะติดแบล็กลิสต์ อ้างไม่มีรถไปสอนหนังสือ ก่อนเบี้ยวค่างวดจนถูกฟ้องยักยอกทรัพย์

29 ต.ค. 67 น.ส.ปราณี อายุ 43 ปี ชาว ต.บ้านสิงห์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ นำเอกสารหลักฐานเข้าร้องขอความเป็นธรรมและขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง โดยอ้างว่าถูก น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ข้าราชการครู ที่คบหาเป็นเพื่อนสนิทกันมากว่า 1 ปี หลอกใช้ชื่อซื้อดาวน์รถจักรยานยนต์ให้ เนื่องจากชื่อครู ติดแบล็กลิสต์ไม่สามารถใช้ชื่อตัวเองดาวน์รถได้  ทั้งยังบอกว่าไม่มีรถขี่ไปสอนหนังสือ 

ด้วยความที่สงสารเพื่อนและเห็นว่าเป็นถึงข้าราชการครู ทั้งรู้จักทั้งกับสามีและแม่ของครูคนดังกล่าวด้วย จึงเชื่อใจยอมใช้ชื่อตัวเองซื้อดาวน์รถจักรยานยนต์ให้ตามที่เขาขอร้อง เมื่อช่วงประมาณเดือน มิ.ย. 65  โดยวันที่ไปดาวน์รถในตัวเมืองบุรีรัมย์ สามีครูเป็นคนจ่ายเงินดาวน์เองจำนวน 5,500 บาท ซึ่งตามสัญญาเช่าซื้อรถคันดังกล่าวต้องผ่อนชำระทั้งหมด 60 งวด ๆ ละ 2,759 บาท รวมต้องจ่ายทั้งต้นและดอกเบี้ยเกือบ 160,000 บาท

แต่หลังจากที่ซื้อดาวน์รถไปแล้ว น.ส.เอ  เพื่อนที่เป็นครู ก็เอารถไปใช้ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.สุรินทร์ แต่จ่ายค่างวดเพียงงวดแรกงวดเดียว หลังจากนั้นมีเอกสารจากไฟแนนซ์ส่งมาทวงถามว่า ค้างค่างวด 5 งวด ตนก็ตกใจพยายามติดต่อหาครูคนดังกล่าว เขาก็บอกว่าจะรับผิดชอบหาเงินไปจ่ายเอง ตนก็เชื่อใจนึกว่าเขาจะรับผิดชอบตามที่รับปาก 

กระทั่งล่าสุด ได้รับหมายศาลจังหวัดนางรอง ถูกไฟแนนซ์ฟ้องร้องฐานยักยอกทรัพย์ เนื่องจากมีการค้างชำระค่างวดรถจักรยานยนต์ถึง 2 ปี โดยบริษัทแจ้งให้นำรถจักรยานยนต์ซึ่งเป็นทรัพย์สินของบริษัทไปส่งคืน และชำระเงินที่ค้างอีกกว่า 90,000 บาท ก็ตกใจมากไม่คิดว่าคนที่เป็นข้าราชการครูและเพื่อนกัน จะทำกันได้ลงคอ พยายามติดต่อหาก็ถูกบล็อกเบอร์ พอไปหาที่บ้านก็เจอแม่ของครูถือมีดไล่ฟัน ตอนนี้เดือดร้อนมาก เครียดหนักไม่รู้จะทำยังไง เพราะนอกจากจะถูกครูหลอกใช้ชื่อซื้อรถจนถูกฟ้องร้องแล้ว ยังตกงานอีกด้วย  

เบื้องต้น ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.นางรอง เพื่อให้ตำรวจช่วยติดตามรถคืนและจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับครูคนดังกล่าวต่อไป ส่วนที่ตัวเองโดนไฟแนนซ์ฟ้องก็ยังไม่รู้จะหาทางออกยังไง จึงได้มาร้องขอความช่วยเหลือที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอนางรอง

ด้าน นายจักร์กฤษ ร่วมกูล ปลัดอำเภอนางรองฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางช่วยเหลือ ตามกระบวนการขั้นตอนต่อไป    

จากนั้น ทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของข้าราชการครูที่ผู้เสียหายกล่าวอ้างถึง แต่ไม่พบครูคนที่ถูกกล่าวหา พบเพียง นางแดง (นามสมมติ) อายุ 61 ปี แม่ของข้าราชการครู ก็ให้ข้อมูลเพียงว่า ลูกสาวไปสอนหนังสืออยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ จ.สุรินทร์ พอสอบถามว่าทราบเรื่องที่ครูให้เพื่อนใช้ซื่อซื้อดาวน์รถจักรยานยนต์แล้วค้างค่างวดหรือไม่ ผู้เป็นแม่ก็บอกว่า ไม่ทราบเรื่องที่เกิดขึ้น ต้องสอบถามลูกสาวเอง  

ส่วนที่ น.ส.ปราณี กล่าวหาว่าตนถือมีดจะไล่ฟันนั้น ก็ชี้แจงว่า น.ส.ปราณี มาด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคายก่อน ทั้งที่ตนเองไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ก็บอกเขาว่าให้คุยกับลูกสาวเอง แต่ตอนที่เขามา ลูกสาวกับลูกเขยไปทำงาน แต่เขาก็ยังมายืนด่า ตนจึงถือมีดขู่เท่านั้นไม่ได้จะฟันเขา ยอมรับว่าโกรธที่เขามาด่าหยาบคาย ทั้งที่เมื่อก่อนตอนที่ตนขายก๋วยเตี๋ยว เวลาเขาไม่มีเงินก็ไม่ได้จ่ายเงิน ติดไว้ตลอด

ซึ่งทีมข่าวได้สอบถามจากเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ก็ให้ข้อมูลว่า ครูและสามีเคยมีพฤติกรรมหลอกให้คนอื่นซื้อดาวน์รถให้ เป็นปัญหาลักษณะนี้มาแล้วหลายคัน แต่ไม่ขอให้สัมภาษณ์เพราะไม่อยากมีปัญหา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง