ผู้ใหญ่บ้าน ใช้ปืนหลวงยิงลูกชายดับ หลังลูกชายทั้งชก เตะ ต่อย เพราะพ่อตักเตือน วัวของลูกชาย ไปกินพืชผักและเหยียบย่ำแปลงผักของชาวบ้านเสียหาย หลังพ่อสู้ไม่ไหวกัดฟัน ลุกไปหยิบปืนมายิงลูกดับ ก่อนรอมอบตัว
เมื่อเวลา 00.25 น. วันนี้ (30 ตุลาคม 2567) ร.ต.อ.ชำนาญ หนูแสง รองสว.(สอบสวน) สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ต.วังอ่าง อ.ชะอวด ที่เกิดเหตุพบศพ นายศุภชัย อายุ 29 ปี ลูกชายเจ้าของบ้าน นอนตายจมเลือดในสภาพนอนตะแคงซ้าย อยู่บนพื้นปูนภายในบ้าน ผู้ตายอยู่ในชุดนุ่งกางเกงขายาวสีดำเพียงตัวเดียว ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนลูกซอง เข้าที่กลางแผ่นหลังจำนวน 1 นัด บนแคร่ไม้ แบบเตียงเล็กขนาด 3 ฟุต ใกล้ศพพบปืนลูกซองยาววางอยู่ 1 กระบอก และมีนายไสว อายุ 59 ปี เจ้าของบ้าน และ เป็นผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านดังกล่าว ยืนรอมอบตัวกับตำรวจ โดยแจ้งว่าตนเอง เป็นคนใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย ซึ่งเป็นลูกชาย เสียชีวิต
นายไสว ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นผู้ใหญ่บ้าน มีอาชีพทำสวนยาง สวนผลไม้ สวนผัก และเลี้ยงวัว มีคอกวัวหลายคอก ก่อนเกิดเหตุตนได้ว่ากล่าวตักเตือนลูกชาย เรื่องไม่ดูแลวัวที่เลี้ยงไว้ให้ดี เนื่องจากตนได้แบ่งคอกวัวที่มีอยู่ ให้กับลูกชายไปจัดการดูแลเอง ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีชาวบ้านที่เป็นลูกบ้าน มาแจ้งกับตนว่า มีฝูงวัวของลูกชาย ออกไปกินพืชผักและพืชอื่นๆในสวนของชาวบ้าน ได้รับความเสียหายหลายครั้ง ล่าสุดในช่วงหัวค่ำ ชาวบ้านได้บอกกับตนว่า วัวจากคอกของลูกชาย เข้าไปกินพืชผักและเหยียบย่ำแปลงผักของชาวบ้านเสียหายอีก ตนได้เตือนลูกชายว่า หากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ตนจะให้ชาวบ้านไปแจ้งความดำเนินคดีกับตามกฏหมาย เพราะตักเตือนหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เชื่อฟัง ปล่อยปละละเลย ไม่แก้ปัญหาที่เกิดขึ้น
ปรากฏว่า ลูกชายได้โต้เถียงตน ทำให้มีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จนเกิดการชกต่อยต่อสู้กันขึ้น ตนสู้ลูกชายไม่ได้ ถูกลูกชายชกและเตะจนทรุดกองกับพื้น ได้กัดฟันลุกวิ่งไปคว้าปืนลูกซองยาว ซึ่งเป็นอาวุธปืนของทางการ ที่เบิกมาเพื่อไว้รักษาความสงบเรียบร้อยหมู่บ้าน และเก็บไว้ในห้องนอน ออกมายิงลูกชาย ที่ตามติดมาจะทำร้ายตนซ้ำ โดยเมื่อเห็นตนถือปืน ลูกชายได้กลับหลังหันจะวิ่งหนี แต่ไม่ทัน ตนเหนี่ยวไกปืน กระสุนเจาะแผ่นหลัง ล้มลงเสียชีวิต
พ.ต.อ.สมพร นิติภักดิ์ ผกก.สภ.ชะอวด กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นการทะเลาะวิวาท ก่อนจะบานปลายเป็นเหตุทำร้ายร่างกายและใช้อาวุธปืนยิงกันในครอบครัว จากการตรวจสอบลูกชาย พบว่าลูกชายของนายไสว มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ถูกเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดของ สภ.ชะอวด จับกุมดำเนินคดีในฐานความผิดเสพ และมียาเสพติดไว้ในครอบครอง ต้องโทษอยู่ในเรือนจำมากว่า 1 ปี พ้นโทษออกมาได้ไม่กี่เดือน
หลังสอบปากคำเบื้องต้น ตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนส่งศพ ไปตรวจชันสูตรเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้ง ที่โรงพยาบาล โดยกำชับให้ตรวจสารเสพติดในเลือด หรือในร่างกายของผุ้ตายด้วย เนื่องจากการสอบปากคำผู้เป็นพ่อและคนในบ้านมีความเป็นไปได้ว่า ผู้ตายอาจเสพยาหรือสารเสพติดมาก่อนเกิดเหตุ ทำให้สภาพจิต สติสัมปชัญญะ ความรู้สึกนึกคิด ความรับผิดชอบชั่วดี อาจผิดแผก แตกต่างไปจากคนปกติ ในขณะเดียว ได้นำตัวนายไสวไปตรวจเขม่าดินปืนที่โรงพัก นำอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุไปตรวจสอบ เร่งสอบปากคำทางคดี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
