“พิชัย” ไม่ทราบเรื่อง “โฆษก พปชร.” ปูดสมาชิกเพื่อไทย เชื่อมโยง “ดิไอคอนกรุ๊ป” วอนเล่นการเมืองน้อย ๆ เพราะคนกำลังอดตาย เผยรัฐบาลเร่งฟื้นเศรษฐกิจ หลังตัวเลขลงทุนพุ่ง 7.2 แสนล้านบาทในรอบ 10 ปี โว “นายกฯ อิ๊งค์” เนื้อหอม นักลงทุนต่างชาติแห่ขอเข้าพบ
วันนี้ (30 ต.ค.67) นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท. ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ ออกมาระบุว่า บอสเทวดาที่อยู่เบื้องหลัง “ดิไอคอน กรุ๊ป” เป็นอดีตผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย รวมทั้งเปิด 6 อักษรย่อที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองที่ในพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด ซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคหรือไม่
นายพิชัย ระบุว่า เรื่องนี้ไม่ทราบ และไม่ได้ติดตามเรื่องนี้ โดยตนเองมุ่งเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ กำลังไปได้ดี มีชาวต่างประเทศ ทั้งทูต และนักลงทุนสนใจ ที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่า เนื่องจากอยู่ในธุรกิจมานาน เมื่อมีคนแห่เข้ามาหาเรา แสดงให้เห็นว่าเนื้อหอม และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป แม้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะชนะเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ฯ สงครามการค้าระหว่างประเทศจีน กับสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แต่เราจะได้รับประโยชน์ เพราะขณะนี้สหรัฐอเมริกา วิ่งเข้ามาลงทุนในประเทศประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะมีการขยายการลงทุนอีกมาก และรัฐมนตรีจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็จะเข้ามาพบ โดยจะมีการเจรจาขยายธุรกิจทางด้าน Data Center ธุรกิจอาหาร และการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทยที่ดีมาก และย้ำว่า ที่ผ่านมาทำไมเศรษฐกิจไทยถึงโตช้า เพราะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง แต่ขณะนี้ได้นำเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมใหม่ และธุรกิจต่าง ๆ เข้ามามีทิศทางเป็นไปด้วยดี
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ประเทศไทยลำบากมาหลายปี ดังนั้นมีความจำเป็นที่ต้องฟื้นเศรษฐกิจให้รวดเร็ว แต่ขณะนี้ทิศทางฟื้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้พูดเพื่อโพรโมทกัน แต่สามารถเช็กข้อมูลได้ และจะเห็นได้จากตัวเลขการลงทุนตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่ามากสุดในรอบ 10 ปี ดังนั้นความมั่นใจจึงกลับมา และกำลังเข้ามาเรื่อย ๆ ซึ่งเดือนหน้าตนก็จะเดินทางกับนายกรัฐมนตรีเพื่อเข้าร่วมประชุม APEC ที่ประเทศเปรู และเชื่อว่าจะมีหลายประเทศเข้ามาเจรจาการค้ามากขึ้น และการลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อตอนนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ สปป.ลาว ต่างมี คนขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก กว่า 26 วงประชุม ซึ่งเรียกว่าเนื้อหอม มากกว่าประเทศสิงคโปร์ จึงเป็นทิศทางที่กำลังไปได้ด้วยดี จึงอยากให้เรื่องของการเมืองน้อย ๆ หน่อย เพราะตนอยากเห็นเช่นนั้น ซึ่งเรื่องของการเมือง ทำให้ประเทศไทยชะงักมานับ 10 ปีแล้ว ฉะนั้นถึงเวลาที่จะต้องกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจให้มาก ขอให้เล่นการเมืองน้อย ๆ เพราะคนกำลังจะอดตายกันเยอะแล้ว
ดังนั้นจึงต้องมาทบทวนว่าจะทำอย่างไรให้ GDP เติบโต และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์อยากเห็น เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังประชุมแก้ไขเรื่องสินค้าที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งจะมีมาตรการที่แก้ไขเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน