ตำรวจยัน! ดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด 10 เยาวชนหมาหมู่ รุมทำร้ายหนุ่มวัย 16 ปี จนเสียชีวิต เผยเป็นศึกขัดแย้งระหว่างหมู่บ้าน แต่ผู้เสียชีวิตตกเป็นเหยื่อ ช็อก หัวโจกวัย 18 ปี เพิ่งพ้นโทษฆ่าคนตายมาไม่ถึงปี จ.นครพนม
ความคืบหน้า เกี่ยวกับการสอบสวนดำเนินคดี เกี่ยวกับแก๊งวัยรุ่นเยาวชน ก่อเหตุรุมทำร้าย นายก้อง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เสียชีวิต บริเวณถนนเยื้องบ้านพัก อยู่บ้านนางัว ต.นางัว อ.บ้านแพง จ.นครพนม หลังเกิดความไม่พอใจ เป็นปัญหาระหว่างวัยรุ่นในหมู่บ้าน ทำให้มีการพยายามก่อเหตุอวดศักดา ด้วยความคึกคะนองมาตลอด เป็นเหตุให้จนนายก้อง ตกเป็นเหยื่อ ทั้งที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน เพียงแค่คู่กรณี เข้าใจว่าเป็นคนบ้านเดียวกันกับคู่อริเก่า จึงดักรุมทำร้ายหลังกลับจากเที่ยวงานบุญหมอลำ เมื่อคืนวันที่ 26 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด เผยให้เห็นก่อนเกิดเหตุขณะกลุ่มผู้ก่อเหตุ บุกมาพยายามทำร้ายถึงบริเวณบ้าน แต่ไม่เจอ จนกระทั่งขากลับเจอระหว่างทาง จึงลงมือก่อเหตุ
ล่าสุด วันนี้ (30 ต.ค. 67) พ.ต.อ.สุนันท์ สร้อยสุด ผกก.สภ.บ้านแพง ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวน พร้อมทีมสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รวบรวมหลักฐาน จนจับกุมผู้ก่อเหตุ ทั้งหมด 10 คน อายุ 18 ปี 2 คน และอีก 8 คน มีอายุระหว่าง 15-17 ปี โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ฐานความผิดร่วมกันทำร้ายผู้อื่นจนถือแก่ความตาย
ในส่วนของผู้ก่อเหตุ อายุ 18 ปี ได้คุมตัวไปเสนอศาลขอฝากขัง ส่วนที่เหลือจะต้องรอขบวนการสอบสวน ต่อหน้าสหวิชาชีพ ตามกระบวนการตามกฎหมาย สรุปสำนานส่งศาลเด็กและเยาวชน ยืนยัน ตำรวจดำเนินคดีตรงไปตรงมา ให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย ในส่วนของการชดเชยเยียวยา จะต้องขึ้นอยู่กับกระบวนการทางกฎหมาย ในส่วนของตำรวจจะดำเนินคดีขั้นเด็ดขาดตามพยานหลักฐาน ยอมรับมีเยาวชนอายุ 18 ปี ที่เป็นหัวหน้าแก๊ง ทั้ง 2 คน เคยก่อคดีทำร้ายคนตายในลักษณะเดียวกัน แต่พ้นโทษออกมาไม่ถึงปี ยอมรับปัญหาดังกล่าว ยังหนักใจเรื่องบทลงโทษทางกฎหมาย กรณีเยาวชนกระทำผิด ทั้งนี้ทางตำรวจจะได้ประสานฝ่ายปกครอง ผู้นำชุมชน ช่วยกันสอดส่องดูแล ป้องกันปราบปราม ไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
ทั้งนี้ จากการสอบถาม นายอี๊ด (นามสมุติ) อายุ 15 ปี เพื่อนรุ่นน้องของผู้เสียชีวิต อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า หลังออกจากงานบุญประเพณีหมอลำ ตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์มากับนายก้อง ส่วนคนนั่งกลาง คือภรรยาของนายก้อง และตนซ้อนท้ายสุด ช่วงระหว่างออกจากงานบุญ ไม่มีปัญหากับใคร
แต่พอมาใกล้ถึงหน้าบ้าน มีกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้มาจอดรถจักรยานยนต์ดักรอ ประมาณ 5-6 คัน รวมกันมากกว่า 10 คน นายก้องจึงจอดรถจักรยานยนต์ และเดินลงไปพูดคุย เนื่องจากมีเจตนาดี แต่กลุ่มคนก่อเหตุเข้าใจผิด กล่าวหาว่านายก้อง ไปทำลายรถจักรยานยนต์ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุที่จอดในงานเสียหาย
โดยนายก้อง พยายาอธิบาย แสดงความบริสุทธิ์ใจ แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุ กลับรุ่มทำร้ายด้วยอาวุธครบมือ ทั้งไม้เบสบอล ไม้ยาว มีดดาบ สนับมือ จนนายก้อง ทรุดกับพื้น ตนพยายามวิ่งเข้าไปห้ามแต่ก็ถูกทำร้าย จึงวิ่งออกมาเรียกคนไปช่วย แต่ไม่ทัน นายก้องได้สลบและเสียชีวิต ยืนยันว่า ตั้งใจฆ่า ไม่ใช่หวังแค่ทำร้าย ยังรับไม่ได้โหดร้ายเกินคน