เร่งเอาผิด ตร.-พลเรือน อุ้มชาวจีนรีดเงิน

View icon 23
วันที่ 1 พ.ย. 2567 | 11.24 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - จู่ ๆ ก็มีข่าวนี้ขึ้นมา ว่ามีตำรวจนำหมายศาลฯ เข้าไปจับกุม ชายชาวจีน ในบ้านพักหรู จังหวัดสมุทรปราการ แล้วไปรีดทรัพย์เอาเงิน 300 ล้านบาท ก่อนเข้าแจ้งความ จนตำรวจติดตามจับกุมมาดำเนินคดีได้เกือบหมด

เหตุการณ์ตามที่มีคนแจ้งความ ระบุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่บ้านพักหรู ในจังหวัดสมุทรปราการ มีตำรวจ 10 นาย พร้อมพลเรือน และล่ามแปลภาษา เข้าไปขอตรวจค้น เพราะมีผู้ต้องหาสัญชาติฟิลิปินส์ ให้การซัดทอดว่า เป็นผู้ร่วมขบวนการปลอมพาสปอร์ต "นายไซ" ชาวจีนผู้เสียหาย ก็ปฏิเสธและยอมให้ตรวจค้น ก่อนจะถูกตำรวจแก๊งนี้ขู่รีดเงิน 300 ล้านบาท หรือจ่ายเป็นเงินสกุลดิจิทัล 10 ล้าน USDT เพื่อแลกกับการจบคดี "นายไซ" ก็ปฏิเสธอีก ถึงถูกพาตัวไปสอบสวนที่ บก.สอท.1

ตอนที่ถูกพาตัวไปก็ถูกสอบสวน และต่อรองให้จ่ายเงินเหลือ 5 ล้านบาท สุดท้ายยอมโอนเงินให้ไปประมาณ 149,000 USDT ต่อมามีเพื่อนอีกคนที่อยากรู้ใครเป็นคนแจ้งความ ชี้เบาะแสให้จับกุม ก็ต้องจ่ายเงินไปอีกกว่า 20,000 USDT จึงเป็นที่มาของการรวบรวมพยานหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดี และมีการจับกุมผู้ต้องหา

เรื่องนี้ไปถึงหู ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้ตำรวจนครบาล ตามสืบสวนและดำเนินคดี  ขณะที่ตำรวจไซเบอร์ ก็ไม่นิ่งเฉยตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงมาตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม แล้วก็เริ่มรวบรวมภาพวงจรปิดมาตั้งแต่นั้น พบว่าเรื่องนี้มีมูลความจริง บช.น. จึงเริ่มนับหนึ่งทำคดี

แต่ยังไม่ทันจะขอศาลฯ ออกหมายจับ ก็มีตำรวจ บก.สอท.1 3 นาย ติดต่อมาแสดงความบริสุทธิ์ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนทราบ และทั้ง 3 ก็ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอให้การภายหลังเป็นหนังสือเป็นเวลา 15 วัน

กระทั่งต่อมา 29 ตุลาคม ศาลฯ ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เหลืออีก 9 คน มีทั้งตำรวจสอบสวนกลาง, ตำรวจท่องเที่ยว, ตำรวจภูธร และพลเรือน ในข้อหา "เป็นเจ้าพนักงานร่วมกัน เรียกรับประโยชน์อื่นใดโดยมิชอบ, เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และร่วมกันกรรโชก" ก่อนจะไปตามจับกุมตัวมาได้ 7 คน เป็นตำรวจ 6 นาย พลเรือน 1 คน

ทั้งหมดให้การปฏิเสธและขอประกันตัว โดยใช้เงินสด และที่ดินเป็นหลักประกัน ตำรวจพิจารณาแล้ว อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ส่วนเรื่องการดำเนินคดี เนื่องจากเกี่ยวพันกับเจ้าหน้าที่รัฐ มีตำรวจระดับ "พันตำรวจโท" เกี่ยวข้อง จึงต้องรวบรวมคดีส่งให้ ป.ป.ช. พิจารณาภายใน 30 วัน พร้อมกับติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลืออีก 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง