ทนายธรรมราช ระบุ ไม่ยอมความ เพราะบาดเจ็บที่ดวงตา คือ อันตรายสาหัส เผยหลังจากนี้คงต้องซื้อปืนเพิ่ม
1 พฤศจิกายน 2567 ทนายธรรมราช สาระปัญญา ให้สัมภาษณ์หลังนำตัวผู้ก่อเหตุที่บุกทำร้ายร่างกายกลางวงสัมภาษณ์ส่ง สน.พหลโยธิน โดยระบุว่า ตนเองยังไม่รู้เหตุผลของคนก่อเหตุ เพราะยังไม่ได้คุยกัน ผู้ก่อเหตุเบื้องต้นมี 1 คนที่ทำร้ายร่างกาย และอีกหนึ่งคนล็อกคอ ณ เวลานี้มี 2 คน ส่วนสาเหตุที่คาดว่าเกิดขึ้นเพราะตนเองชอบแซะนั้น ทนายธรรมราช ระบุว่า "ก็ไม่ได้แซะไปจนถึงพ่อผู้ก่อเหตุ"
การทำร้ายร่างกายครั้งนี้ ถูกอวัยวะสำคัญของตนเอง คือ ดวงตา เพราะถูกเล็บของผู้ก่อเหตุ หลังจากนี้ต้องสืบต่อว่าผู้ก่อเหตุถูกว่าจ้างมาหรือไม่ หากไม่พบผู้ว่าจ้างตัวของผู้ก่อเหตุต้องรับกรรมไปเต็มๆ ส่วนเรื่องที่อ้างว่ามีการพูดถึงศาสนานั้น ในประเด็นทางด้านกฎหมาย ยอมรับว่า มีจริง คนใจร้อน ต้องนอนที่แคบ หลังจากนี้ไม่มียอมความ เรื่องนี้เรื่องเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ตนเองเคยโดนหนักกว่านี้ คือ ถูกลอบยิง
"กองบังคับการกองปราบปราม เป็นสถานที่ที่ตนเองคิดว่าปลอดภัย ตอนนี้เชื่อว่า ตำรวจก็คงไม่อยากจะให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น ปกติตนเองเป็นคนระวังอยู่แล้ว และเห็นว่าที่นี่ปลอดภัย ในการทำงานทนาย ตนเองระวังอยู่แล้ว"
นอกจากนี้ ทนายธรรมราช ยังระบุอีกว่า ตนเองเป็นทนายความ อยู่ท่ามกลางข้อโต้แย้งระหว่างกฎหมาย แต่การทำพฤติกรรมแบบนี้ หากใครโดนก็รับไม่ได้ คดีนี้มีการสอบปากคำเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับตรวจโทรศัพท์ของผู้ก่อเหตุ หลังจากนี้จะไปตรวจดวงตา เพราะถือว่าเป็นอวัยวะสำคัญ และจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมทำร้ายร่างกายจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กระแสสังคมในโลกออนไลน์ มีการชมชมผู้ก่อเหตุอยากฝากอะไรหรือไม่? ทนายธรรมราช ระบุว่า คนกลุ่มนี้ตนเองขอเรียกว่า คนที่ยังไม่ได้ขัดเกลากิเลส ก็ย่อมเห็นความรุนแรงเป็นที่ถูกใจ มนุษย์ทั่วไปไม่ได้ขัดเกลากิเลสอยู่แล้ว คนที่ไปคอมเมนต์ก็แค่ส่วนหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนน้อย เชื่อว่าการคอมเมนต์ในทางลบมีระบบ io ด้วย คนที่ให้กำลังใจตนเองก็มี คนที่ก่อเหตุวันนี้ขอดำเนินคดีตามกฎหมายตามกระบวนการ แต่ญาติพี่น้องของตนเองจะยอมหรือไม่ก็ว่ากันไป
"วันนี้อยากบอกทุกท่านว่าผมมาด้วยใจบริสุทธิ์ มาทำหน้าที่ปวงชนชาวไทย ผมมาถูกต้องด้วยกฎหมาย บ้านเมืองเรา"