เวลา 14.53 น. วันนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จไปทรงประกอบพิธีสมโภชพระสัมพุทธพรรณี (จำลอง) และเสด็จแทนพระองค์ ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดราชาธิวาสวิหาร
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับการบูรณะพระสัมพุทธพรรณี (จำลอง) และส่วนประกอบพระสัมพุทธพรรณี (จำลอง) ได้แก่ ผ้าทรงสะพักปักดาราปฐมจุลจอมเกล้า และอักษรพระปรมาภิไธย จ.จ.จ. พร้อมนพปฎลเศวตฉัตรที่กางกั้นเหนือพระสัมพุทธพรรณี (จำลอง) ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบ 200 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงผนวช และประทับจำพรรษา ณ วัดราชาธิวาสวิหาร โดยได้พระราชทานพระราชทรัพย์ในการบูรณะ มีวัดราชาธิวาส และกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม เป็นหน่วยงานหลัก นับเป็นการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ตามโบราณราชประเพณี และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้มีการสมโภชในโอกาสพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน สำหรับพระสัมพุทธพรรณี เป็นพระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงสถาปนาขึ้นเมื่อครั้งทรงพระผนวช กอปรด้วยพุทธศิลป์พระราชนิยมอันมีนัยเชื่อมโยงกับแนวความคิดแบบธรรมยุติกนิกาย ที่ทรงสถาปนาและวางรากฐาน ณ พระอารามแห่งนี้ ต่อมาได้อัญเชิญพระสัมพุทธพรรณีไปประดิษฐานยังวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามลำดับ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระอาราม และสถาปนาพระพุทธปฏิมาประธานพระอุโบสถ ที่ทรงจำลองแบบมาจากพระสัมพุทธพรรณีของสมเด็จพระบรมชนกนาถ เป็น "พระสัมพุทธพรรณี (จำลอง)"
โอกาสนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระสัมพุทธพรรณี (จําลอง) พระประธานพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงกราบ ทรงหยิบผ้าห่มสําหรับพระประธานที่วางอยู่บนผ้าไตร พระราชทานเจ้าพนักงานภูษามาลา เจ้าหน้าที่กรมการศาสนากราบทูลรายงานจำนวนพระสงฆ์ ทรงหยิบผ้าไตรที่พานแว่นฟ้าพาดระหว่างพระกร ทรงว่า "นะโมตัสสะฯ" จบ 3 หนแล้ว ทรงกล่าวคําถวายผ้าพระกฐิน ทรงวางผ้าไตรไว้บนพานแว่นฟ้า ทรงประเคนผ้าไตรและเทียนปาฏิโมกข์แด่พระสงฆ์รูปที่ 2
แล้วเสด็จเข้าหลังพระอุโบสถ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระสัมพุทธวัฒโนภาส ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ทรงกราบ เสด็จออกจากหลังพระอุโบสถ พระสงฆ์ทำพิธีกฐินกรรม เมื่อพระสงฆ์ผู้ครองกฐินออกไปครองผ้าพระกฐินเสร็จกลับมานั่งยังอาสน์สงฆ์ ทรงประเคนเครื่องบริขารพระกฐินแด่พระสงฆ์ผู้ครองผ้าพระกฐิน ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ในการนี้ พระราชทานพระวโรกาสให้ ผู้มีจิตศรัทธาเฝ้ารับพระราชทานของที่ระลึก
เวลา 15.35 น. สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดมกุฎกษัตริยาราม ซึ่ง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร สร้างขึ้นตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ภายหลังจากขุดคลองผดุงกรุงเกษมเป็นคูพระนครชั้นนอกและให้มีวัดเรียงรายอยู่ตามชายคลองเหมือนกรุงศรีอยุธยา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างวัดขึ้นเคียงคู่กับวัดโสมนัสวรวิหาร โดยให้สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นแม่กองก่อสร้าง แล้วเสร็จในปี 2411 ช่วงแรกเรียกว่า "วัดนามบัญญัติ" เมื่อสิ้นรัชกาลจึงเรียกนามพระราชทานว่า "วัดมกุฏกษัตริยาราม" อันเป็นนามตามพระปรมาภิไธย
วัดมกุฎกษัตริยาราม มีลักษณะพิเศษเฉพาะ คือ เป็นวัดในกรุงรัตนโกสินทร์ ที่มีเสมา 2 ชั้น ชั้นแรก เรียกว่า มหาสีมา อยู่ในซุ้มที่มุมกำแพงรอบวัด และมีเสมารอบพระอุโบสถอีกชั้นเรียกว่า ขัณฑสีมา ซึ่งพระสงฆ์สามารถประชุมทำสังฆกรรมได้ทั้งพระอุโบสถและพระวิหาร สำหรับพระวิหาร พระอุโบสถ รวมถึงหน้าบันและด้านบนของซุ้มประตูหน้าต่าง มีลายพระมหามงกุฏอันเป็นตราประจำรัชกาลที่ 4 ส่วนผนังด้านในพระอุโบสถ มีภาพจิตรกรรมแตกต่างจากวัดอื่น เช่น เรื่องพระสาวกในบาลีและอรรถกถา พระอัครสาวก 11 พระองค์ อัครสาวิกา 8 องค์ ภาพการบำเพ็ญกรรมฐาน สิ่งที่พึงปฏิบัติเนื่องด้วยธรรมวินัย ธุดงควัตร บนบานหน้าต่างและบานประตูด้านในเขียนพระสูตร ที่เป็นคาถาด้วยตัวอักษรบรรจง ปัจจุบัน มีพระเทพวชิรเมธาจารย์ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ 59 รูป และสามเณร 34 รูป
หลังจากทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินแล้ว สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระดำเนินไปยังที่ประดิษฐานพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช ทรงวางพวงมาลัย และทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฏวิทยมหาราช
เวลา 16.07 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ เสด็จแทนพระองค์ไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ พระวิหาร วัดโสมนัสวิหาร ซึ่งเป็นพระอารามหลวงแห่ง 1 ใน 18 พระอารามที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินด้วยพระองค์เอง หรือ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พระบรมวงศานุวงศ์ ราชสกุล องคมนตรี หรือผู้ที่มีพระราชดำริเห็นสมควร ทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน หรือ เชิญผ้าพระกฐินไปถวาย เรียกว่า กฐินหลวง
วัดโสมนัสวิหาร สร้างขึ้นเมื่อปี 2396 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระสยามเทวมหามกุฎวิทยมหาราช เพื่อเฉลิมพระเกียรติ และอุทิศพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี พระบรมราชเทวี พระราชทานนามว่า วัดโสมนัสวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรวิหาร มีสิ่งสำคัญในพระอาราม เช่น พระอุโบสถ ประดิษฐานพระสัมพุทธสิริ เป็นพระประธานพระอุโบสถ, พระวิหาร ประดิษฐานพระสัมพุทธโสมนัสวัฒนาวดีนาถบพิตร เป็นพระประธานพระวิหาร, พระเจดีย์ใหญ่ หรือ พระมหาเจดีย์ อยู่กลางลานด้านหลังพระวิหาร เป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ, พระเจดีย์มอญ ทรงลอมฟาง มีลักษณะคล้ายสถูปปรินิพพาน ประเทศอินเดีย
ในการนี้ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา พระราชทานของที่ระลึกแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงิน ทำนุบำรุงพระอาราม ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการบูรณะปฏิสังขรณ์พระอุโบสถ ปัจจุบัน มีสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ เป็นเจ้าอาวาส มีพระสงฆ์ และสามเณร จำนวน 57 รูป