ผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เดินหน้าหาเสียงในช่วงโค้งสุดท้ายกันอย่างดุเดือด โดยทรัมป์ยังคงมุ่งเน้นการปราศรัยถึงนโยบายด้านผู้อพยพและเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนางแฮร์ริสที่ลงพื้นที่หาเสียงกับกลุ่มสหภาพแรงงาน
วานนี้ (1 พ.ย.) อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ขึ้นเวทีหาเสียงที่รัฐมิชิแกน ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นรัฐสมรภูมิ โดยนายทรัมป์ระบุว่า จะออกนโยบายจัดเก็บภาษีศุลกากร 100 เปอร์เซ็นต์ กับกลุ่มบริษัทสเตลแลนติส (Stellantis) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตรถยนต์ข้ามชาติที่มียานยนต์ถึง 14 แบรนด์ หากกลุ่มบริษัทฯ ดังกล่าวย้ายฐานการผลิตจากสหรัฐฯ ไปยังเม็กซิโก
ขณะเดียวกัน นายทรัมป์กล่าวต่อผู้สนับสนุนที่รัฐวิสคอนซิน ว่าผู้อพยพกำลังแย่งงานไปจากชาวแอฟริกันอเมริกัน และชาวอเมริกันเชื้อสายละติน พร้อมตอกย้ำถึงนโยบายความมั่นคงชายแดน และระหว่างการปราศรัยอยู่นั้นได้เกิดปัญหาทางเทคนิคเกี่ยวกับไมโครโฟน ทำให้อดีตผู้นำสหรัฐฯ ไม่วายเหน็บแนมนางคอมมาลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ว่าต้องใช้เทเลพรอมเตอร์ในการอ่านสคริปต์ ในขณะที่เขาต้องการเพียงไมโครโฟนที่ดีเท่านั้น
ขณะที่ นางแฮร์ริสลงพื้นที่หาเสียงกับกลุ่มผู้นำท้องถิ่นและกลุ่มสหภาพแรงงานที่รัฐวิสคอนซิน โดยเธอให้คำมั่นว่าจะมีการลงทุนในชุมชนการผลิต ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มสหภาพแรงงานส่วนใหญ่ให้การสนับสนุนผู้แทนจากพรรคเดโมแครตมาอย่างยาวนาน และเธอได้ให้การสนับสนุนกลุ่มสหภาพฯ ในการเจรจาสัญญาจ้างต่าง ๆ และสิทธิแรงงาน
นอกจากนี้ นางแฮร์ริสยังให้คำมั่นว่าจะมีการออกนโยบายช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ ทั้งการลดหย่อนภาษีสำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง เงินช่วยเหลือสำหรับการดูแลบุตร และเรียกร้องให้กลุ่มผู้สนับสนุนวางแผนในการออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
สำหรับบรรยากาศที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ ผู้ประกอบการร้านค้าเริ่มมีการเตรียมพร้อมรับมือการเลือกตั้งด้วยการนำไม้อัดมาตีป้องกันร้านของตนเองแล้ว ท่ามกลางความกังวลว่าอาจเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นหลังทราบผลการเลือกตั้ง เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปอย่างสูสี
ขณะเดียวกัน ทางการรัฐวอชิงตันได้มีการสั่งสแตนด์บายเจ้าหน้าที่กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิไว้แล้ว เพื่อเตรียมรับมือหากเกิดความรุนแรงขึ้น