ป.ป.ส. สกัดจับ 3 ผู้ต้องหาต่างชาติ ลอบขนกัญชา 89 กก.มุ่งสู่ยุโรป

ป.ป.ส. สกัดจับ 3 ผู้ต้องหาต่างชาติ ลอบขนกัญชา 89 กก.มุ่งสู่ยุโรป

View icon 94
วันที่ 3 พ.ย. 2567 | 15.42 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
รวบคาสนามบิน ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลฯ สกัดจับ 3 ผู้ต้องหาต่างชาติ ลอบขนกัญชา 89 กก. มุ่งหน้าสู่ยุโรป

วันนี้ (3 พ.ย.67) พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวถึงผลปฎิบัติการของสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ภายใต้โครงการสกัดกั้นยาเสพติดผ่านท่าอากาศยาน (Airport Interdiction Task Force : AITF) ประกอบด้วย ศุลกากร กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สืบสวนติดตามพฤติการณ์ชาวต่างชาติที่ต้องสงสัยใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่านในการลำเลียงกัญชาเพื่อไปยังประเทศปลายทางในยุโรป โดยจากการติดตามเฝ้าระวัง พบว่าเครือข่ายดังกล่าวเดินทางออกจากประเทศไทย ในวันที่ 1 – 2 พ.ย.67 ผ่านประเทศสิงคโปร์เพื่อไปยังประเทศอิตาลี และประเทศอังกฤษ

ตนได้มอบหมายให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ประสานการดำเนินการร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร ปฏิบัติงานตามโครงการ AITF โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ สามารถสกัดกั้นการลักลอบลำเลียงยาเสพติดส่งออกไปยังประเทศที่สาม (ประเทศอิตาลี, อังกฤษ) และจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติรวม 3 คน พบกัญชา รวมทั้งหมด 89 กิโลกรัม มีรายละเอียดการจับกุม 2 คดี ดังนี้

วันที่ 1 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และ กรมศุลกากร จับกุมผู้ต้องหาสัญชาติสิงคโปร์ 1 คน พร้อมช่อดอกกัญชา 19 กิโลกรัมซุกซ่อนภายในกระเป๋าสัมภาระ ขณะเตรียมเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ เพื่อเปลี่ยนเครื่องไปประเทศอิตาลี โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “พยายามนำออกซึ่งพืชสมุนไพรควบคุม (ช่อดอกกัญชา) ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่มีใบอนุญาต และไม่สำแดงสิ่งของตามกฎหมายศุลกากร

ต่อมาวันที่ 2 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ นปส.สุวรรณภูมิ และกรมศุลกากร ได้ปฏิบัติการตรวจค้นเพิ่มเติม สามารถจับกุมผู้ต้องหาสัญชาติมาเลเซีย 2 คน ที่มีกำหนดการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปสิงคโปร์ ก่อนเปลี่ยนเครื่องไปยังกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ จากการตรวจค้นสัมภาระ พบกัญชาซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสัมภาระรวม 4 ใบ น้ำหนักรวม 70 กิโลกรัม

พล.ต.ท. ภาณุรัตน์ เปิดเผยว่า ความสำเร็จในการจับกุมครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ที่มุ่งมั่นปฏิบัติงานในการสกัดกั้นและป้องกันการลักลอบลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปฏิบัติงานในท่าอากาศยานที่เป็นจุดเชื่อมต่อสำคัญของเส้นทางการขนส่งยาเสพติดข้ามชาติ ที่มักใช้เส้นทางผ่านประเทศไทยเพื่อส่งต่อไปยังประเทศที่สาม ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันและสกัดกั้นยาเสพติดที่มีแนวโน้มใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางผ่าน และขอความร่วมมือประชาชนร่วมแจ้งเบาะแสหรือข้อมูลที่อาจนำไปสู่การป้องกันปัญหายาเสพติด หากพบเห็นพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วน ป.ป.ส. โทร. 1386 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง