วันนี้ (3 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา สังคมโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปชายหญิงโป๊ะแตกถูกจับได้มาเป็นชู้กัน พร้อมระบุข้อความว่า “เรื่องสามีที่จดทะเบียนสมรสพาผู้หญิงเข้ามามีอะไรกันในบ้าน พอดีหนูกำลังท้องได้ 8 เดือน หนูลาคลอดกลับมาคลอดที่ต่างจังหวัดได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ สามีของหนูที่อยู่กินกันมา 4 ปี จดทะเบียนสมรส เขาพาผู้หญิงอื่นมามีอะไรกันในบ้าน ในเตียงที่หนูเคยนอนกับเขา ทั้ง ๆ ที่เขาก็รู้ว่าลูกจะคลอดสิ้นเดือนนี้ แต่เขายังทำ
ซึ่งผู้หญิงคนที่เขาเอามานอนด้วยเคยจับได้แล้ว 1 ครั้ง แต่หนูเลือกที่จะให้โอกาส เพราะหลักฐานไม่ได้มัดตัวมากพอ แต่นี่เป็นรอบที่ 2 ที่เขาทำรอบนี้จับได้ว่ากำลังนอนด้วยกัน แก้ผ้าอยู่ในห้องของหนู ผู้หญิงรู้ดีนะคะว่าผู้ชายมีครอบครัว มีเมียที่กำลังตั้งท้อง แต่มันไม่สำนึกเลย หนูปวดใจมาก ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะไปทางไหนเลยค่ะ เงินจะคลอดลูกยังไม่มี อยากจะฟ้องก็ไม่มีทนาย เพราะไม่มีเงินมากพอ หนูอยากให้เพจพี่ช่วยกระจายข่าวให้หน่อยได้ไหมคะ มีคลิปวิดีโอที่เขากำลังเปลือยอยู่ด้วยกันในบ้านของหนู หนูอยากได้ความเป็นธรรมให้กับลูกที่อยู่ในท้องค่ะ”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ติดต่อสอบถาม น.ส.ปุ๊ก (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นผู้โพสต์ และบอกว่า อยู่กินกับสามีมา 4 ปี และได้จดทะเบียนสมรสกันเมื่อวันที่ 5 มี.ค. 67 ตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 8 เดือนแล้ว จะคลอดสิ้นเดือน พ.ย. 67 นี้ โดยเมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้ว สามีได้ให้ตนเดินทางกลับบ้านที่ จ.ศรีสะเกษ เพื่อมาคลอดลูก ซึ่งสามีของตนบอกว่าคลอดอยู่ที่บ้านค่าใช้จ่ายถูกกว่า และแม่จะได้ดูแลได้ ซึ่งตนก็เชื่อ จึงเดินทางกลับมา ปกติเขาก็จะโทรหาตนตลอด ว่าขณะนี้ทำอะไรอยู่
กระทั่งเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 67 ช่วงเย็น เมื่อเขาเลิกงานเขาบอกกับตนว่า เหมือนไม่สบาย ขออาบน้ำกินยานอนก่อนนะ จากนั้นตอน 06.00 น. วันที่ 1 พ.ย. 67 เขาก็โทรมาปกติว่าตื่นแล้ว เดี๋ยวอาบน้ำไปทำงานก่อน ซึ่งปกติเวลาเขาถึงที่ทำงาน เขาก็จะวิดีโอคอลมาหาตน แต่วันนั้นกลับเงียบหายไป จนถึงช่วงเวลาประมาณ 16.00 น. ตนก็เริ่มเป็นห่วงว่าเขาจะเกิดอุบัติเหตุหรือเปล่า หรือว่าเขาไม่สบายนอนหลับยาวไปหรือไม่ หรือว่าลื่นล้มในห้องน้ำ เพราะเขาบอกจะไปอาบน้ำและขาดการติดต่อไปเลย ซึ่งตนโทรศัพท์หา10-20 สาย ก็ไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงโทรไปหาน้องสาวให้เข้ามาดูที่บ้าน ว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เมื่อน้องสาวมาที่บ้าน น้องสาวก็โทรศัพท์บอกตนว่าเจอรถเก๋งจอดอยู่ที่บ้าน ซึ่งตนก็เอะใจแล้วว่ารถของใคร จึงให้น้องสาวเดินดูรอบบ้าน ซึ่งน้องสาวก็แจ้งว่าไม่มีเสียงแอร์และเสียงพัดลม โดยปกติของสามีตนชอบสูบบุหรี่ในห้องนอน แล้วก็จะเปิดหน้าต่างเพื่อพ่นควันบุหรี่ออกไป ตนจึงให้น้องสาวเดินเข้าไปทางด้านข้าง เพื่อไปแง้มดูที่หน้าต่างว่าบานไหนเปิดได้บ้าง ซึ่งขณะนั้นตนก็วิดีโอคอลคุยกับน้องสาวไปด้วย
ต่อมาน้องสาวตนแง้มหน้าต่างออกและเปิดผ้าม่านดู ก็เจอสามีของตนและผู้หญิงนอนเปลือยกายอยู่ด้วยกัน ซึ่งตนตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูก จากนั้นน้องสาวจึงวางโทรศัพท์ไป และน้องก็บันทึกภาพหลักฐานเก็บไว้ เพราะครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะตอนที่ตนเริ่มตั้งครรภ์ประมาณเดือน พ.ค. 67 ก็จับได้ว่าเขาคุยกับผู้หญิงคนนี้ แต่ตอนนั้นสามีของผู้หญิงคนนี้เขาออกมาขอโทษ และรับปากจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ซึ่งตอนนั้นตนก็เครียดจนเข้าโรงพยาบาล แต่ก็ให้อภัยเพราะนึกถึงลูกในท้อง
อย่างไรก็ตาม ในวันเกิดเรื่องสามีของตนได้ทักมาคุยกับตน และยอมรับผิดทุกอย่าง บอกขอโทษ และบอกว่าผู้หญิงคนนี้ซื้อมา ซึ่งตนไม่เชื่อ เพราะเคยมีเหตุการณ์กับผู้หญิงคนนี้มาแล้ว ตนก็เคยคุยกับสามีของผู้หญิงคนนี้แล้วด้วยว่า เขาจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ซึ่งตอนนี้ตนก็จุกจนคิดอะไรไม่ออก และมั่นใจว่าที่สามีให้ตนกลับมาอยู่บ้านเพื่อคลอดลูกเป็นการออกอุบาย เพื่อที่จะได้พาผู้หญิงคนนั้นเข้าบ้าน และที่อ้างว่าซื้อกินก็ไม่เชื่อ เพราะเขาทำงานที่เดียวกัน