จับนักร้องสาวชาวมาเลเซียชื่อดัง ขวัญใจวัยรุ่น พร้อมของกลางยาบ้า 6,060 เม็ด ที่นราธิวาส

จับนักร้องสาวชาวมาเลเซียชื่อดัง ขวัญใจวัยรุ่น พร้อมของกลางยาบ้า 6,060 เม็ด ที่นราธิวาส

View icon 743
วันที่ 4 พ.ย. 2567 | 14.03 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
แฟนเพลงและญาตินับ 100 แห่เยี่ยม นักร้องสาวชื่อดังชาวมาเลเซียแน่นโรงพัก หลังถูกจับที่นราธิวาส พร้อมของกลางยาบ้า 6,060 เม็ด

หลังตำรวจสถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส จับกุม น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล อายุ 28 ปี สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งเป็นนักร้องดังขวัญใจวัยรุ่น พร้อมพวกรวม 6 คน และ ของกลางยาบ้า  6,060 เม็ด ภายในห้องพักโรงแรมชื่อดังใน อ.สุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 1พ.ย.ที่ผ่านมา

และ เนื่องจากวันนี้ (4 พ.ย.67 ) พ.ต.ต.ฮาฟิต หมัดอาสิน สารวัตรสอบสวน สภ.สุไหงโก-ลก ได้ควบคุมตัว น.ส.วันโนรชาฮีดาอัซลิน บินตีวันอิสมาอีล นักร้องดัง และพวกรวม 6 คน ส่งฟ้องศาล จ.นราธิวาส

จึงมีบรรดาแฟนคลับ และ ญาติของนักร้องคนดังนับ 100 คน เดินทางข้ามแดนมาจากรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจอย่างไม่ขาดสาย บางคนถึงกับเป็นลมล้มพับบริเวณหน้าบันได

ตำรวจ สภ.สุไหงโก-ลก ต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฎิบัติการณ์พิเศษ และฝ่ายป้องกันและปราบปราม จำนวนกว่า 50 นาย เข้าควบคุมสถานการณ์ และ ต้องประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเซิ้งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก มาช่วยปฐมพยาบาลคนที่เป็นลมจนอาการดีขึ้น

สำหรับคดีนี้ถือว่าเป็นคดีใหญ่ในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศมาเลเซียจำนวนหนึ่ง แต่งกายนอกเครื่องแบบเดินทางมาสังเกตุการณ์ที่ สภ.สุไหงโก-ลก พร้อมด้วยสื่อมวลชนของประเทศมาเลเซียได้เดินทางมาบันทึกภาพ 

ทั้งนี้ มีรายงานข่าวว่า ตำรวจมาเลเซียพยายามติดตามจับกุมบุคคลภายในกลุ่มดังกล่าว ที่มีพฤติกรรมพัวพันและเกี่ยวข้อกับยาเสพติดมานานแล้ว จากการสอบสวนเบื้องต้นของตำรวจไทย ยังไม่มีผู้ใดให้การรับสารภาพว่าเป็นเจ้าของยาบ้าดังกล่าว แต่เมื่อตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วงทั้ง 6 คน

ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในข้อหา   ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยกระทำเพื่อการค้า และ เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

ในจำนวนนี้ 2 คน ถูกแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 1 ข้อหา คือ เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากหนังสือเดินทางไม่ได้มีการประทับตราจากเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของทั้ง 2 ประเทศ พร้อมรวบรวมพยานหลักฐานส่งฟ้องศาลตามขั้นตอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง