เจ้าหน้าที่ลุยตรวจเขียงเนื้อวัว หลังชาวบ้านร้องเรียนซื้อเครื่องในมากินแล้วท้องเสียรุนแรง พบสารฟอร์มาลีนปนเปื้อนในสไบนาง
วันนี้ (4 พ.ย.67) เจ้าหน้าที่กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคโรงพยาบาลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอนางรอง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ปลัดอำเภอฝ่ายศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขเทศบาลเมืองนางรอง ได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจเขียงจำหน่ายเนื้อวัวสด ในตลาดสระหญ้าม้า (ตลาดสดเทศบาลเมืองนางรอง) หลังมีชาวบ้านเข้าร้องร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ว่าไปซื้อเนื้อวัวและเครื่องในวัว ที่เขียงจำหน่ายเนื้อวัวสดแห่งหนึ่งในตลาดสระหญ้าม้า แล้วเกิดท้องเสียอย่างรุนแรง ถึงเข้าต้องเข้ารักษาตัวที่ รพ.นางรอง ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างเนื้อวัวและเครื่องในวัวไปตรวจหาสารปนเปื้อน พบว่าสไบนาง หรือ ผ้าขี้ริ้ววัว มีสารฟอร์มาลีนปนเปื้อน โดยแม่ค้าอ้างว่ารับมาจากห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองบุรีรัมย์ จึงได้ตักเตือนและห้ามไม่ให้นำมาจำหน่ายอีก
เจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน จึงได้ลงพื้นที่สุ่มตรวจเขียงจำหน่ายเนื้อวัวอีกครั้ง ซึ่งวันนี้ไม่พบว่ามีการนำสไบนาง หรือผ้าขี้ริ้วที่แช่ฟอร์มาลีนมาขาย มีเพียงเนื้อวัว และเครื่องในวัวที่ชำแหละจากโรงฆ่าสัตว์ถูกต้องวางจำหน่ายเท่านั้น และจากการใช้น้ำยาสุ่มตรวจทั้งเนื้อวัว และเครื่องใน ที่แม่ค้าวางจำหน่าย ก็ไม่พบฟอร์มาลีน หรือสารปนเปื้อนชนิดอื่นแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ก็ได้อธิบายให้แม่ค้าฟังถึงผลกระทบกรณีนำเนื้อ หรืออาหารที่ปนเปื้อนฟอร์มาลีนมาจำหน่ายมาจะมีผลอย่างไรกับผู้บริโภค และหากมีการร้องเรียนก็ต้องเอาผิดตามกฎหมายด้วย โดยจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ความสะอาด ปี 2522 จำคุก 2 ปีปรับถึง 20,000 บาท
สอบถามนางบัวเรียง อายุ 60 ปี เจ้าของเขียงจำหน่ายเนื้อวัวรายหนึ่ง ที่เคยนำสไบนางหรือผ้าขี้ริ้วมาจำหน่าย บอกว่า ตนเพิ่งจะมาเช่าร้านต่อจากเจ้าของเดิม และขายเนื้อวัวได้ไม่กี่เดือนเท่านั้น ซึ่งปกติเนื้อวัวจะที่นำมาขายจะผ่านการชำแหละจากโรงฆ่าอย่างถูกต้อง แต่มีช่วงหนึ่งลูกค้ามาถามหาสไบนาง หรือผ้าขี้ริ้ววบ่อย จึงลองไปซื้อจากห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ มาขายโดยที่ไม่รู้ว่ามีการแช่สารฟอร์มาลีน เพิ่งจะทราบตอนที่มีเจ้าหน้าที่ขอตัวอย่างไปตรวจแล้วแจ้งว่าสไบนางที่รับมาจากห้างมีสารฟอร์มาลีนปนเปื้อน หลังจากนั้นก็ไม่รับมาขายอีกเลย เพื่อความปลอดภัยกับสุขภาพของผู้บริโภค