ตำรวจขอนแก่น รวบ 2 ผู้ต้องหา ทำทีเป็นพนักงานส่งของ เข้าลักทรัพย์บ้านกรรมการฟุตบอล รับสารภาพก่อเหตุมานานหลายครั้ง ตำรวจคุมตัวชี้จุด พร้อมขยายผลการผู้ร่วมแก๊ง
จากกรณีเพจข่าว CH7HD NEWS นำเสนอข่าวความเดือดร้อนของชาวบ้านที่ถูกคนร้าย 2 คนทำทีเหมือนเป็นพนักงานส่งของขับรถตระเวนดูบ้านชาวบ้านที่ปิดล็อกไม่มีคนอยู่ ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ ล่าสุดเข้าขโมยทรัพย์ภายในบ้านของกรรมการตัดสินฟุตบอลได้เงินไปร่วม 40,000 บาท โดยผู้เสียหาย ได้เข้าแจ้งความ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้เร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ความคืบหน้าคดีดังกล่าว วันนี้ (5 พ.ย.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้แล้ว และคุมตัวผู้ต้องหามาชี้จุดก่อเหตุ โดย พ.ต.อ.ยศวัจน์ แก้วสืบธัญนิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เผยว่า หลังมีผู้เสียหายมาแจ้งความ ว่าเกิดเหตุลักทรัพย์ โดยผู้ก่อเหตุทำทีเป็นพนักงานส่งของ เพื่อตบตาหรือเบี่ยงเบนความสนใจของประชาชน ก่อนจะเข้าก่อเหตุลักทรัพย์ จึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น ลงพื้นที่ติดตามตัวผู้กระทำผิดในทันที โดยตรวจสอบข้อมูลจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามเส้นทางของผู้ก่อเหตุ
เบื้องต้น เน้นกลุ่มพนักงานส่งของที่รับผิดชอบเขตบ้านผู้เสียหายก่อน จนกระทั่งเมื่อคืนที่ผ่านมา (4 พ.ย.67) เวลาประมาณ 21.00 น. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองขอนแก่น สามารถจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวได้ 2 ราย ประกอบด้วย 1.นายรชต อายุ 43 ปี และ 2.นายวสันต์ อายุ 34 ปี ได้ที่บ้านพักของผู้ก่อเหตุ โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ทั้งยังสารภาพว่าลงมือก่อเหตุมาแล้วหลายที่ในลักษณะเดียวกันเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเคหะสถาน โดยปิดบังใบหน้าและใช้ยานพาหนะฯ” จากนั้นนำตัวชี้จุดหน้าบ้านผู้เสียหาย พร้อมนำตัวสอบสวนเพื่อขยายผลเพื่อหาผู้ร่วมก่อเหตุ และติดตามทรัพย์สินของผู้เสียหาย เพื่อนำส่งคืนผู้เสียหายต่อไป จากนั้นจะคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ด้าน กรรมการฟุตบอล ผู้เสียหาย กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าสามารถจับตัวคนร้ายได้แล้วก็รู้สึกดีใจมาก เพราะตั้งแต่เกิดเหตุ ลูกสาวของตน ตลอดถึงคนในบ้านก็ยังหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พอจับคนร้ายได้ก็สบายใจขึ้น ฝากขอบคุณ ช่อง 7 และสื่อมวลชนทุกแขนงที่ช่วยเผยแพร่ความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงช่วยเผยแพร่ข่าวสารเพื่อเตือนภัยให้ชาวบ้านระมัดระวังมิจฉาชีพ ที่ทุกวันนี้มาได้ทุกรูปแบบ และขอขอบคุณจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเร่งติดตามจับกุมตัวคนมาดำเนินคดีได้อย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ไปก่อความเดือดร้อนให้กับผู้อื่นอีก