แม่โพสต์ระบาย พาลูกสมัครเข้าเรียนกลางเทอม ไม่มีเงินบริจาคสร้างโดม 2 พันบาท ไม่ได้เรียน ต่อรองขอมาจ่ายวันหลังก็ไม่อนุโลม ทั้งที่ลูกเป็นเด็กเรียนดี เกรดเฉลี่ย 3.66 ตอนที่ครูพูดกับแม่ น้องได้ยินตลอดฟังแล้วรู้สึกเสียใจ
ความคืบหน้ากรณีแม่โพสต์ลงโซเชียล ระบายความอัดอั้น สุดเสียใจหลังลูกชายขอสมัครเข้าเรียนในช่วงกลางเทอม แต่โรงเรียนปฏิเสธไม่รับเข้าเรีบน เนื่องจากไม่มีเงินบริจาคสร้างโดมของโรงเรียนขั้นต่ำ 2,000 - 5,000 บาท
นางสาวเอ (นามสมมุติ) ผู้โพสต์ แม่ของ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 13 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ทำงานหาเงินเลี้ยงลูกชายเพียงลำพัง มีอาชีพเป็นหางเครื่อง จึงทำงานไม่เป็นเวลา ลูกชายเคยเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้มาจนถึงชั้น ม.1 แต่ตนไม่มีเวลาดูแลลูก จึงย้ายลูกไปอยู่โรงเรียนประจำ ที่ผ่านมา ลูกชายเป็นนักเรียนที่เรียนดีมาตลอด เกรดเฉลี่ย 3.44 ที่โรงเรียนประจำ ผลการเรียนชั้น ม.2 เทอมแรก ได้เกรดเฉลี่ย 3.66
ขณะนี้แม่พอมีเงินซื้อบ้านให้ลูกอยู่ จึงต้องการย้ายลูกออกมาจากโรงเรียนประจำ เมื่อเข้าไปพูดคุยกับผู้อำนวยการโรงเรียน เพื่อพาลูกเข้ามาเรียน ม.2 ในเทอมที่ 2 ผอ.โรงเรียน ให้นำใบรับรองผลการเรียนจากโรงเรียนเดิมมาให้แล้วพาลูกมาเรียนได้เลย ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ วันจันทร์ที่ 4 พ.ย 67 จึงพาลูกไปที่โรงเรียน แต่ ผอ.ไม่อยู่ นั่งรอประม่าณ 3-4 ชั่วโมง
จากนั้นมีครูผู้ชายเข้ามาพูดคุยด้วย และบอกว่าต้องบริจาคเงินช่วยโรงเรียน เพื่อสมทบสร้างโดมของโรงเรียนด้วย แม่จึงแจ้งว่ามีเงินติดตัว 500 บาท จะขอบริจาคก่อน 300 บาท ครูแสดงสีหน้าที่ดูเหมือนไม่ประทับใจ แม่จึงได้บอกครูไปว่า ขอเวลาทำงานเก็บเงินก่อน ไม่เกินวันที่ 15 พ.ย. น่าจะมีเงินมาบริจาคให้ 2,000 บาท ครูท่านดังกล่าวจึงให้เซ็นเอกสารยืนยันการบริจาค พร้อมกับบอกว่า เมื่อมีเงินครบ 2,000 บาท ค่อยพาลูกมาเข้าเรียน แต่ขณะนี้โรงเรียนเปิดเทอมแล้ว แม่เกรงว่าลูกจะเรียนไม่ทันเพื่อน จึงตัดสินใจพาลูกไปสมัครเรียนที่โรงเรียนแห่งใหม่ ซึ่ง ผอ.และคณะครู รับลูกชายเข้าเรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในวันที่ 6 พ.ย.67 ลูกชายก็จะได้เข้าเรียนเป็นวันแรก
หลังโพสต์ข้อความโรงเรียนแห่งแรกได้เรียกไปพบ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจ โดย ผอ. ยืนยันว่าสามารถนำลูกมาเข้าเรียนได้ ไม่มีปัญหาและไม่มีค่าใช่จ่าย แต่ก็มีครูบางคน บอกว่าถ้าให้ลูกชายเข้าเรียน อาจได้รับแรงกดดันจากเพื่อนและครูผู้สอน จึงตัดสินใจไม่ให้ลูกเข้าเรียน
ขณะที่น้องบี อายุ13 ปี กล่าวว่า น้องอยู่ในเหตุการณ์ที่ครูพูดคุยกับแม่ รู้สึกเสียใจที่ไม่ได้เข้าเรียน เพราะอยากเรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งเป็นโรงเรียนเก่าที่เคยเรียน แต่ไม่ได้เรียนเพราะไม่ได้บริจาคเงิน กระทั่งแม่พาไปสมัครเรียนที่อื่น และโรงเรียนแห่งใหม่ก็รับเข้าเรียนเรียบร้อยแล้ว น้องจะตั้งใจเรียนให้จบ จะเรียนต่อจนได้เป็นครูตามที่ฝันไว้
ผู้สื่อข่าวได้พยายามประสานกับทางโรงเรียนที่ถูกพาดพิงถึง แต่ได้รับแจ้งจากว่า ได้ชี้แจงกับผู้ปกครองเรียบร้อยแล้ว และอยากให้ผู้ปกครองลบโพสต์ทั้งหมดออก เพราะเสื่อมเสียไปทั้งโรงเรียน ยืนยันว่าไม่มีการบังคับบริจาค