ห้องข่าวภาคเที่ยง - ประวัติไม่ธรรมดา ผู้ต้องหาลักเนื้อสด ไก่สด หมูสด ของแม่ค้าในตลาดสดที่จังหวัดนนทบุรี พบว่าก่อเหตุมาแล้วกว่า 5 ครั้ง แต่อ้างมุกเดิม ๆ คือ นำเงินใช้หนี้และเลี้ยงลูก 3 คน
ภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณตลาดบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี ที่บันทึกภาพ นายสุรศักดิ์ อายุ 35 ปี คือขี่รถจักรยานยนต์ไปขโมยเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่แช่แข็ง จากแผงขายของแม่ค้าภายในตลาดบางใหญ่
เป็นหลักฐาน ให้ตำรวจ สภ.บางใหญ่ ร่วมกับ รปภ. ของตลาด เข้ารวบตัว นายสุรศักดิ์ ขณะจอดรถเก๋งสีดำ ที่เตรียมจะเข้ามาก่อเหตุซ้ำก่อนคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บางใหญ่ โดยรับสารภาพว่า ตระเวณเข้าไปขโมยของสดในตลาด ช่วงที่พ่อค้า-แม่ค้า ลงของและออกไปจากร้าน โดยจะขโมยเนื้อสัตว์ที่แช่แข็งในถังน้ำแข็ง ขึ้นรถเก๋งและรถจักรยานยนต์ครั้งละ 45 กิโลกรัม แล้วจะไปขายต่อให้กับร้านขายของสด ในราคาถูกกว่าท้องตลาดครึ่งหนึ่ง ุขายได้วันละ 3,000 บาท โดยอ้างว่า ไม่มีทางออกเพราะต้องใช้หนี้นอกระบบ และต้องหาเงินส่งเสียลูก 3 คน ที่กำลังเรียนหนังสือ
พบว่า นายสุรศักดิ์ มีประวัติการก่อเหตุซ้ำซาก และได้ขโมยของตามตลาด มาแล้วอย่างน้อย 5 ครั้ง ทำให้มีเนื้อสด ไก่สด หมูสด สูญหายรวมกว่า 100 กิโลกรัม
กรณีนี้มีการเทียบเคียงไปถึงเหตุที่ คนร้ายเป็นชายอายุ 50 ปี ที่ไปขโมยลูกชิ้น 1 ถุง จำนวน 300 บาท ในจังหวัดบุรีรัมย์ที่อ้างว่า นำไปให้ลูกกินเพราะพ่อแม่แก่ชรา และมีฐานะยากจนสุดท้าย เจ้าของร้านยอมถอนแจ้งความและไม่เอาผิด แต่ตำรวจต้องเอาผิดตามกฎหมาย แต่มีการส่งอัยการแนบท้ายไปว่าผู้ต้องหาฐานะยากจน ทำให้อัยการเลยสั่งไม่ฟ้อง โดยระบุว่า "ไม่เกิดประโยชน์แก่สาธารณะชน" หรือเป็นคดีที่ผู้กระทำความผิดมิได้มีเจตนาร้าย หรือเกิดจากกมลสันดาน แต่มีองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยแวดล้อม ที่ผลักดันให้ต้องกระทำในสิ่งที่กฎหมายบัญญัติไว้ว่าเป็นความผิด
แต่กรณีที่จังหวัดนนทบุรี จะมาอ้างว่าต้องเลี้ยงลูกไม่ได้ เพราะแตกต่างกัน อีกทั้งผู้ก่อเหตุมีงานทำเป็นหลักแหล่ง เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลักทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป