ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหยื่อหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังเพิ่มต่อเนื่อง มูลค่าความเสียหายทะลุ 80 ล้านบาท เล็งพิจารณาเอาผิดคดีฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมฯ
จากกรณีมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยชื่อดังหลอกดูดวง และลวงให้ซื้อวัตถุมงคล สูญเงินกว่า 66 ล้านบาท
ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พันตำรวจเอก เอนก เตาสุภาพ รอง ผู้บังคับการปราบปราม เปิดเผยความว่า คดีนี้มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่ม อยู่ที่ 25 ราย ความเสียหายรวมกว่า 80 ล้านบาท
ส่วนคดีต้นเรื่องของผู้เสียหาย ที่ถูกหลอกเงินไปกว่า 60 ล้านบาท เดิมอยู่ที่ สน.บางกอกน้อย ตอนนี้ทำเรื่องโอนสำนวนคดีมายัง บช.ก. เช่นเดียวกับคดีของผู้เสียหายในพื้นที่อื่น ที่จะเริ่มทยอยโอนสำนวนคดีมา นอกจากนี้ ยังทราบว่ามีผู้เสียหาย 1 ราย อยู่ที่ประเทศมาเลเซีย โดนหลอกเงินไปกว่า 4 แสนบาท
สำหรับพฤติการณ์ผู้ถูกกล่าวหา ในการหลอกลวงเงินจากเหยื่อแต่ละเคส จะคล้ายกัน เมื่อได้รับเชิญให้ไปดูบ้าน โรงงาน สถานประกอบการ ก็จะทำทีทักว่าบ้านมีช่องลม หม้อแปลง หรือเสาไฟตั้งหน้าบ้าน ทำให้เกิดเภทภัย เจ็บไข้ได้ป่วย อุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์รุนแรงถึงชีวิต
เมื่อผู้เสียหายกังวลก็จะเสนอขายวัตถุมงคลเพื่อแก้เคล็ด พฤติกรรมเช่นนี้ทำมานาน 2-3 ปี บางรายที่นำเงินจากผู้เสียหายไปแล้ว แต่ไม่มีการส่งมอบของให้
ตำรวจต้องสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางการเงิน หรือการโพสต์ข้อความตามสื่อออนไลน์ต่าง ๆ รวมถึงพฤติการณ์หลอกลวงเงิน จากนั้นจะนำมาพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดในข้อหาฉ้อโกงประชาชน และผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หรือไม่ ขณะเดียวกันได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวนตรวจสอบเส้นทางการเงินและหลักฐานที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบสำนวนคดี
ส่วนกรณีผงกระดูกผี จะมีการขยายผลตรวจสอบดีเอ็นเอ หรือที่ไปที่มาของผงกระดูกดังกล่าวหรือไม่ พันตำรวจเอกเอนก กล่าวว่า ผงกระดูกผีน่าจะเป็นเพียงกลอุบายที่ผู้ถูกกล่าวหาอ้างหรือกุเรื่องขึ้นมา เพื่อใช้หลอกลวงเงินจากเหยื่อ ไม่น่ามีอยู่จริง
ส่วนจะออกหมายเรียกซินแสมาให้ปากคำได้เมื่อไหร่นั้น ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากยังอยู่ในขั้นตอนสอบปากคำผู้เสียหาย ซึ่งยังทยอยมาเข้าแจ้งความเพิ่มเติมต่อเนื่อง หลังเสร็จขั้นตอนนี้ก็จะมาพิจารณาเรื่องออกหมายเรียกต่อไป
ขณะที่ เพจบิ๊กเกรียน โพสต์เล่าเรื่อง "มาดามฮวงจุ้ย" พี่สาวของซินแสที่กำลังเป็นคดีความ โดยบอกว่า "มาดามฮวงจุ้ย" กับซินแสคนนี้ อุปโลกน์เป็นทายาท รุ่น 15 สมัยพ่อเป็นคนหาดใหญ่ ขับแท็กซี่ พาซินแสชาวจีน ตระเวนดูบ้านให้ชาวบ้าน ทำหน้าที่เป็นล่าม ได้วิชาครูพักลักจำ จึงเริ่มดูฮวงจุ้ยให้ชาวบ้าน แรก ๆ ไม่คิดเงิน พอเริ่มมีคนเชื่อศรัทธา จึงเริ่มคิดค่าดู แต่ไม่แพงเหมือนรุ่นลูก
จากนั้นย้ายมาปักหลัก ที่หมู่บ้านย่านธัญบุรี ยึดอาชีพขับแท็กซี่ และเป็นซินแสดูฮวงจุ้ย ส่วนลูกสาวกับซินแสที่เป็นข่าว เหมือนลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น สถาปนาตัวเองเป็นรุ่น 15 เมื่อ 4 ปี พี่สาวตั้งตัวเป็นมาดามฮวงจุ้ย เน้นขายวัตถุมงคล กิเลน สิงห์ เป็นหลัก อวดอ้างศาสตร์ว่า ต้นฉบับในไทย คือคุณพ่อของมาดามเอง ที่ได้รับความรู้จากภายในตระกูล รุ่นสู่รุ่น
ร้านแกะสลักโดนจ้างทำกิเลนสุดท้ายไม่จ่ายเงิน
ทีมข่าวตรวจสอบที่มาของหินแกะสลัก ที่หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง มักจะอ้างกับลูกค้าที่ว่าจ้างให้มาดูฮวงจุ้ย ก่อนแนะนำให้ตั้งสิงห์คู่ไว้ภายในบริเวณบ้าน โดยให้สั่งซื้อราคาหลักแสน ถึงหลักล้านบาท อ้างสิงห์คู่ต้องสั่งทำ และส่งมาจากประเทศจีน
ล่าสุดมีเฟซบุ๊กชื่อ “แกะสลักหินทุกชนิด-ร้านแก้วประทานพร” ที่นครราชสีมา โพสต์ภาพสิงห์คู่ พร้อมกับระบุว่า "รอวันนี้มานาน วันที่กรรมกำลังจะทำงาน ร้านเราคืออีก 1 ผู้เสียหาย เสียรู้ เสียเวลาแกะสลัก กิเลนหินทรายสีเขียว ไปส่งที่บริษัท แต่กลับไม่ได้รับค่างาน หลายต่อหลายชิ้น จนตัดสินใจเลิกทำงานส่งให้ติดตามทวงถามจนทุกวันนี้ ก็ยังไม่ได้เลยสักสลึง มีแต่จากปากอาจารย์ว่าอยากได้ให้ไปฟ้องเอา"
