หนุ่มชายรักชายสุดเซ็ง ถูกแฟนหนุ่มคู่ขาที่คบได้เพียง 3 เดือนหลอกเอาเงินไป 5,000 บาท แถมยังออกอุบายขโมยรถจักรยานยนต์ไปขายให้พ่อค้ามารับถึงบ้าน หลังก่อเหตุไลน์ส่งข้อความรับสารภาพก่อนหลบหนีไปปอยเปตจ้างไปขายบัญชี
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบ นายซัน อายุ 30 ปี หลังจากถูกแฟนหนุ่มที่รู้จักกันทางโซเชียลทักทายพูดคุยกันจนถูกคอมีติดต่อคบกันได้ประมาณ 3 เดือน ปรากฏว่าแฟนหนุ่มได้ออกลายขอยืมเงินจำนวน 5,000 บาท และล่าสุดยังได้ขโมยรถจักรยานยนต์ เอาไปขาย ซึ่งตนได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองลพบุรี
นายซัน เล่าให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนมีอาชีพทำงานอยู่ห้างแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นแฟนหนุ่มรุ่นน้องชื่อนายก๊อฟ อายุ 22 ปี รู้จักกันทางโซเชียลอ้างที่บ้านประกอบอาชีพให้เช่ารถยนต์ ตนสนิทใจจึงได้นัดหมายมาเจอกันที่บ้านพัก เมื่อเห็นนายก๊อฟ ดูบุคลิคดีขับรถเก๋งยี่ห้อ MG สีส้มทะเบียนป้ายแดง
จึงไปมาหาสู่คบกันได้ประมาณ 3 เดือน จากนั้นก็เริ่มออกลายได้ขอยืมเงินไปจำนวน 5,000 บาท อ้างต้องการไปทำธุระด่วน และวันที่ 5 พ.ย. 67 จะนำมาคืนให้
ตนเองก็ให้ยืมไปแต่ได้ถ่ายเอาสารบัตรประชาชนเอาไว้พร้อมเขียนข้อความให้กู้เงินเอาไว้เป็นหลักฐาน กระทั่งวันที่ 31 ต.ค. 67 ที่ผ่านมา นายก๊อฟ ได้ขับรถเก๋งคันเดิมมาหาที่บ้านแต่เช้าและออกอุบายว่าจะไปส่งตนทำงาน
ซึ่งตามปกติแล้วตนจะขับขี่รถจักรยานยนต์ไปทำงานทุกวัน แต่วันนี้นายก๊อฟ กลับคะยั้นคะยอต้องการขับรถเก๋งไปส่งตนที่ทำงานให้ได้ ซึ่งตนก็ยังไม่แอะใจอะไรจึงยอมให้นายก๊อฟ ขับรถพาไปส่ง ส่วนรถจักรยานยนต์จอดเสียบกุญแจอยู่ที่บ้าน เพราะเห็นว่านายก๊อฟ มาหาคงอยู่เฝ้าบ้านให้
ต่อมาหลังเลิกงานช่วงเวลา 17.00 น. ยังไม่เห็นนายก๊อฟ มารับตนจึงนั่งรถรับจ้างกลับบ้าน พอไปถึงบ้านกลับไม่พบตัวนายก๊อฟ รถจักรยานยนต์ก็หายไป ภายในบ้านก็ถูกรื้อค้น จึงไปขอดูคลิปวงจรปิดของเพื่อนบ้านที่อยู่ฝั่งตรงข้าม
พบว่าช่วงเวลา 11.00 น. นายก๊อฟ ได้เข็นรถจักรยานยนต์ของตนออกมาจากบ้านนำมาจอดไว้ที่หน้าประตูบ้าน จากนั้นมีชาย-หญิงเดินถือเอกสารคาดว่าเป็นเอกสารรถตน ยืนดูสภาพรถก่อนที่นายก๊อฟ จะเข็นรถจักรยานยนต์ของตนไปขึ้นรถกระบะคันสีขาวแล้วขับออกไป ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นพวกพ่อค้ารับซื้อรถมือสองมารับซื้อรถไป
ส่วนหลักฐานรถตนได้เก็บไว้บนบ้านก็หายไปด้วย คาดว่านายก๊อฟ จะเอาหลักฐานไปแสดงให้พ่อค้าซื้อรถมือสองเชื่อใจ นอกจากนี้นายก๊อฟแฟนหนุ่มยังได้ไลน์มาหาตนพิมพ์ข้อความว่า
“มันอาจจะฟังดูเ..ยนะ เราขอเวลาอีก 3 – 4 วันนะ ไม่เกิน 5 วัน , แล้วจะเอารถไปคืนให้
นี่เอารถไปจำไว้อะ มีหนี้ก้อนหนึ่งที่ไม่กล้าบอกที่บ้าน , ต้องใช้หนี้ให้เขาไม่งั้นเขาจะตามมาหานี่ , และตามไปที่บ้าน , นี่เลยเอารถซันไปจำไว้ที่หนึ่ง , แต่เราสัญญานะเราทำงานตรงนี้เสร็จ , เรากำลังเข้าปอยเปตไปขายบัญชี , มันจะได้เงินก้อนมา 2-3 หมื่น , ล่ะนี่จะเอาไปออกที่จำให้ , เธอจะไปแจ้งความก็ได้ , ถ้ากลัวเราหนี , แต่เราได้เงิน , เรากลับไปแน่นอน , ถึงข้ามฝั่งไปไทยจะโดนจับก็เถอะ”
ซึ่งหลังจากนายก๊อฟ ทิ้งข้อความนี้ไว้แล้วก็ปิดเครื่องไม่สามารถติดต่อไปอีกเลย โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดไปสอบปากคำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อเปลี่ยนแปลงข้อหาเดิมจากยักยอกทรัพย์ มาเป็นลักทรัพย์
ส่วนคนที่มารับรถตนไปแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ ดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
