สุพรรณบุรี อีกแล้ว เกิดเหตุพลุระเบิด หญิง 60 เจ็บสาหัส ด้านหน่วยงานเข้มงวดขึ้น หลังเกิดเหตุบ่อยครั้ง
วันนี้ (5 พ.ย. 67) ร.ต.อ.ภาคภูมิ สุรินทะ รอง สว. สอบสวน สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุพลุระเบิดบริเวณบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.6 ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี
จุดเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว สภาพบ้านพังยับเยินร่องรอยถูกอัดด้วยแรงระเบิดพังเสียหายทั้งหลัง ภายในบ้านพบกองเลือดของผู้บาดเจ็บ 1 ราย เป็นหญิงอายุ 60 ปี ทราบชื่อต่อมา คือนางบำรุง เป็นเจ้าของบ้าน และผู้ประกอบพลุลูกบอลไล่นก ซึ่งถูกแรงระเบิดของพลุไล่นก สภาพร่างกายบาดเจ็บ แขนขาด ลำตัวมีบาดแผลสาหัส โดนสะเก็ดระเบิดทั้งตัวอาการสาหัส ขณะนี้ได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช
เบื้องต้นจากการสอบถามนายเนรมิต ได้ให้การว่า ที่บ้านมีผู้อาศัยอยู่ 5 คน ก่อนเกิดเหตุช่วงสาย ๆ แม่ของตนนั่งทำพลุไล่นกตรงหน้าบ้านคนเดียว จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น เลยรีบวิ่งมาดู เห็นแม่นอนจมกองเลือดอยู่ ตกใจมากแต่ต้องตั้งสติรีบอุ้มแม่ขึ้นรถ นำส่ง รพ.หนองหญ้าไซ
โดยแม่ของตนนั้นรับจ้างมาประกอบ โดยได้ค่าจ้าง 1,000 ลูก ประมาณ 100 บาท วันหนึ่งก็ได้ประมาณ 200-300 บาท ที่ผ่านมาตนก็เคยตักเตือนแล้ว แต่ก็ยังขอทำต่อ เนื่องจากต้องการมีรายได้ช่วยเลี้ยงครอบครัว พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียใจมาก ตอนนี้บ้านรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ก็พังเสียหายทั้งหลัง แม่ก็อาการสาหัส ตอนยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมพิสูจน์หลักฐาน จนท. EOD เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยกันพื้นที่อันตรายไว้ และเก็บวัตถุอันตรายทั้งหมดเคลียพื้นที่
เบื้องต้นพบดินเทาที่ใช้ประกอบพลุลุกบอลไล่นกจำนวนหนึ่งในถังพลาสติก และพบปลอกพลุลูกนกประมาณ 1,000 ลูก หล่นในที่เกิดเหตุเกลื่อนกระจัดกระจาย และอุปกรณ์ทำพลุลูกนกจึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ที่ผ่านมาทางตำรวจและปกครอง ก็ได้ออกตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งรายนี้ก็ถูกจับกุมไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และกลับมาลักลอบทำอีกครั้ง โดยมีการรับมาจากในหมู่บ้าน ซึ่งได้สั่งชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่แล้วว่าเป็นใคร โดยตัวลูกชายก็ให้การว่าแม่รับจ้างมาทำประกอบที่บ้าน เคยหยุดทำไปพักหนึ่งและก็รับกลับมาทำใหม่ โดยได้เป็นค่าจ้างตามจำนวนที่ทำในแต่ละวันเพื่อหารายได้เสริมของครอบครัว
ส่วนสาเหตุจากการตรวจสอบของ พฐ. ไม่พบ อุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ ซึ่งก็คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากความประมาทของผู้ประกอบพลุไล่นก อาจเกิดการเสียดสีของดินเทา ที่ตกกับพื้น จนทำให้เกิดประกายไฟ และเกิดแรงระเบิดขึ้นอย่างแรง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย และบ้านพังเสียหายทั้งหลัง อย่างไรก็ดีทางตำรวจจะสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านหน่วยงานในพื้นที่ ตอนนี้ ทางจังหวัดเอง มีการสั่งการให้นายอำเภอ ผู้นำชุมชน ทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายกอบต. ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ภายใน 24 ชม. นี้ หากพบให้ตักเตือน ถ้ายังไม่เลิกทำจะต้องถูกตำรวจจับดำเนินคดี เนื่องจากขณะนี้ทางจังหวัดสุพรรณบุรี เราไม่ให้มีการออกใบอนุญาตผลิตหรือจำหน่ายพลุ วัตถุอันตราย แต่อย่างใด ซึ่งหากพบหรือมีการลักลอบจะมีการจับดำเนินคดีทางกฎหมายอย่าเด็ดขาด
โดยตอนนี้ความช่วยเหลือเบื้องต้น เราได้นำทีมของ พม. นำทีมนักจิตวิทยา มาเยียวยาจิตใจ และนำสิ่งของอาหารแห้งมามอบให้ก่อน และส่วนการซ่อมแซมบ้าน ก็จะมีการพิจารณาของหน่วยงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษต่อไป