เช้านี้ที่หมอชิต - เทศกาลลอยกระทง ที่มีความต้องการเล่น ใช้ดอกไม้ไฟ ทำให้ชาวบ้านในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ลักลอบทำดอกไม้ไฟ เร่งผลิตให้ทันส่งขาย จนเกิดระเบิดขึ้น จนบ้านพังทั้งหลัง และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนขาด ล่าสุดทางจังหวัดมีคำสั่งให้ตำรวจและฝ่ายปกครองจับกุมดำเนินคดีอย่างเด็ดชาด
เมื่อวานนี้ เกิดเเหตุพลุระเบิดใส่บ้านชาวบ้าน เป็นบ้านปูนชั้นเดียวที่อยู่ติดถนน คูน้ำในหมู่บ้าน ที่อำเภอหนองหญ้าไซ จังหวัดสุพรรณบุรี พบสภาพบ้าน หลังคา กระเบื้อง ผนังคอนกรีตถูกแรงระเบิดพังเสียหายทั้งหลัง เหลือเพียงเสาและโครงไม้ มีเศษซากพลุลูกไข่ กระจายเกลื่อนพื้น พบนางบำรุง อายุ 62 ปี เจ้าของบ้าน ได้รับบาดเจ็บ แขนขาด หน้าอกฉีกขาด อาการสาหัส ต้องเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราชอย่างเร่งด่วน
หลังเกิดเหตุ นายอำเภอหนองหญ้าไซ เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ พบว่า บ้านดังกล่าว ลักลอบทำพลุดอกไม้เพลิง สอบถาม นายเนรมิต อายุ 35 ปี ลูกชายของคนเจ็บ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ นอนหลับอยู่หลังบ้าน จึงไม่ได้รับบาดเจ็บ รับสารภาพ ลักลอบทำพลุดอกไม้เพลิง โดยได้รับค่าจ้างร้อยละ 10 บาท ส่งขายให้นายทุน ในช่วงเทศกาลลอยกระทง
ชุด EOD ปิดกั้นพื้นที่ เข้าตรวจสอบ ให้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด พบซากของพลุลูกบอล หรือพลุ ที่ชาวบ้านทั่วไปใช้จุดไล่นกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ยังพบว่า ช่วงเทศกาลวันลอยกระทงจะมีการลักลอบผลิตพลุดอกไม้ไฟเพื่อเร่งออกมาจำหน่ายให้ทัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และตำรวจ เร่งตรวจสอบพื้นที่ บ้านเรือนที่มีการลักลอบผลิตพลุดอกไม้เพลิง เพื่อป้องกันเหตุซ้ำ
หลังเกิดเหตุ นายกองเอกเชษฐา ขาวประเสิรฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ได้เรียกประชุมด่วนวางมาตราการขั้นเด็ดขาดในเรื่องนี้ เนื่องจากเกิดเหตุบ่อยครั้งได้กำชับตำรวจ และฝ่ายปกครองออกตรวจตราพื้นที่พร้อมออกคำสั่งให้นายอำเภอ และผู้นำชุมชนตรวจสอบพื้นที่ของตัวเอง หากพบให้ตักเตือน ถ้ายังไม่เลิกทำจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดีทุกราย เพราะทางจังหวัดไม่มีการออกใบอนุญาตผลิตหรือจำหน่ายพลุและวัตถุอันตรายใด ๆ