เร่งล่า นายตั้ม มือฆ่าพี่สาวแท้ๆ ยังล่องหน ตำรวจบุกค้นบ้านพักเจอกระสุนปืนลูกซอง จำนวน 9 นัด
วันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 ที่ ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ ผู้สื่อข่าวยังคงเกาะติดเหตุฆาตกรรมที่ น้องชาย คือ นายตั้ม อายุ 49 ปี ลงมือสังหารนางฝน อายุ 55 ปี พี่สาวตายคาใต้ถุนบ้านกลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี ตั้งแต่คืนวันที่ 5 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมีปมสาเหตุมาจากปัญหาความขัดแย้งในเรื่องที่ดินทำกิน และในส่วนของคนร้าย ยังอยู่ระหว่างการติดตามไล่ล่าตัวของตำรวจ แต่ยังไม่พบเจอตัวนั้น ล่าสุด เมื่อช่วงเวลา 13.00 น. 6 พ.ย.ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 6 ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในสังกัด ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว ในการร่วมไล่ล่าตัวคนร้ายกับตำรวจพื้นที่ ซึ่งก็ได้มีการนำกำลังไปบุกตรวจสอบบ้านพักของนายกำพล ในพื้นที่หมู่ 1 ต.ตะคร้อ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของพี่สาวที่เสียชีวิตไปประมาณ 4 กิโลเมตร พบว่า บ้านถูกปิดเงียบสนิท ไม่พบเจอทั้งเจ้าตัว และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อเวฟ รุ่นเอส100 สีน้ำเงินดำ ที่นายตั้มใช้อยู่เป็นประจำ แต่จากการตรวจสอบภายในบ้านพัก ทางตำรวจสามารถตรวจยึดกระสุนปืนลูกซองมาได้จำนวน 9 นัด
อย่างไรก็ตาม จากการใช้เทคนิกตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พบว่า นายตั้มคนร้าย ได้หลบหนีออกนอกพื้นที่ อ.ไพศาลีไปแล้ว แต่ยังคงหลบหนีวนเวียนไปมาอยู่ในเขตพื้นที่ จ.นครสวรรค์ จึงได้มีการประสานแจ้งไปยังสถานีตำรวจแต่ละท้องที่ ส่งทีมไปเฝ้าจับตามตามบ้านญาติๆ ของคนร้าย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ อ.ตาคลี ที่มีญาติสนิทกับนายกำพล แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังคงไร้วี่แววที่จะตามเจอตัวนายกำพล
ขณะเดียวกันมีข้อมูลด้วยว่า ครอบครัวของนางฝนมีพี่น้องแท้ๆ รวมกัน 5 คน แต่ก็ได้ล้มหายตายจากกันไป จนปัจจุบันเหลือเพียงนางฝนที่เป็นพี่คนโต มีน้องชายคนกลางที่ยังบวชเป็นพระ และนายตั้มคนร้าย เป็นน้องคนสุดท้อง ซึ่งทั้ง 3 คนนี้ มีส่วนกับการได้รับมรดกที่ดิน สปก.จากมารดา ทิ้งไว้ให้หลังเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ แต่ที่ผ่านมา ที่ดินทั้งหมด มีนางฝนเป็นผู้ดูแลผลประโยชน์แต่เพียงคนเดียว โดยมีการปล่อยให้ชาวบ้านเช่าที่ทำนา และได้รับรายได้หลังจากมีการเกี่ยวข้าวเสร็จแล้วไม่ต่ำกว่าครั้ง 2 แสนบาท ซึ่งผลประโยชน์ตรงนี้ อาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้นางฝนมีปัญหาขัดแย้งกับนายกำพลในเรื่องส่วนแบ่งของรายได้ จนทำให้มีเหตุฆาตกรรมเกิดขึ้น
ส่วนการสอบถามลักษณะนิสัยของนางฝนกับชาวบ้าน ต่างให้ข้อมูลระบุว่า นางฝนใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังเกิดเหตุเพียงลำพัง แต่ถือเป็นคนใจใหญ่สายเปย์พอสมควร จึงมักจะมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากหน้าหลายตาเข้าไปมั่วสุมจัดปาร์ตี้กันอยู่ที่บ้านของนางฝนเป็นประจำ และบ้านหลังที่เกิดเหตุ ก็เป็นบ้านที่ตั้งอยู่กลางท้องนา ซึ่งอยู่ห่างไกลจากเขตชุมชนไปประมาณ 500 เมตร จึงถือเป็นบ้านที่อยู่ห่างไกลสายตาของชาวชุมชนเป็นพอสมควร อีกทั้ง ยังมีญาติของนางฝนให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า รายได้ทั้งหมดที่นางฝนได้รับจากการปล่อยให้เช่าที่นำนานั้น นางฝนมักจะนำไปใช้กับการเป็นสายเปย์จนหมด รวมถึง ยังจะมีการนำที่ดินส่วนหนึ่งไปขายด้วย ซึ่งก็เป็นอีกข้อมูลหนึ่ง ที่อาจจะเป็นชนวนเหตุทำให้นายกำพล เกิดความไม่พอใจ เพราะที่ผ่านมา นอกจากน้องชายที่ยังบวชเป็นพระ และนายกำพล มักจะไม่ค่อยได้รับส่วนแบ่งจากรายได้แล้ว ยังจะมีการนำที่ดินไปปล่อยขายด้วย ซึ่งอาจจะมีการพูดคุยแบ่งผลประโยชน์กันไม่ลงตัว จนเกิดความขัดแย้งบานปลายกลายเป็นเหตุสลดดังกล่าว