สนามข่าว 7 สี - เรียกได้ว่าตอนนี้ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ "ทนายตั้ม" เผชิญวิบากกรรมเล่นงานของแท้เข้าแล้ว ถูกตำรวจจับกุม ไม่แค่ตัวทนายตั้มคนเดียว แต่ยังลากภรรยาติดร่างแห ต้องนอนห้องขังด้วยกันเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังตำรวจไม่ให้ประกันตัว
ย้อนดูภาพตำรวจนำหมายศาลเข้าคุมตัว ทนายตั้ม และ นางปทิตตา ภรรยา ที่บริเวณถนนกบินทร์บุรี-ฉะเชิงเทรา ขาออก อำเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา ขณะขับรถหรู มุ่งหน้าจังหวัดสระแก้ว อ้างไปแสวงบุญ ตรวจสอบด้านท้ายรถหรูพบกระเป๋าเดินทาง เครื่องนอน และซองเอกสาร ซึ่งตำรวจเชื่อว่าเตรียมหลบหนี ศาลอาญาจึงอนุมัติหมายจับทนายตั้ม ใน 3 ข้อหาคือ ฉ้อโกง, ฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิด ส่วนภรรยาของทนายตั้ม ถูกแจ้งข้อหา ร่วมกันฟอกเงิน หลังพบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง
การที่ได้เห็นภาพทนายตั้ม ถูกจับในครั้งนี้เป็นผลจาก "มาดามอ้อย" ออกมาเปิดโปงพฤติกรรมว่าทนายตั้ม ฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท ยังนำไปสู่ออกออกหมายจับ ทนายตั้ม ต่อเนื่องอีก 3 คดี เกี่ยวกับโอนเงินสกุลดิจิทัล 39 ล้าน คดียักยอกเงินส่วนต่างรถเบนซ์ ราคา 13 ล้านบาท และยักยอกเงินค่าออกแบบการก่อสร้างโรงแรม ที่จังหวัดนครราชสีมา จำนวน 9 ล้านบาท
ขณะเดียวกันเมื่อวานตำรวจสอบสวนกลาง อีก 2 ชุด นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านเก่าของ "ทนายตั้ม" ที่จังหวัดสมุทรสาคร และบ้านหรู ในซอยบางเชือก 7/4 เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นสถานที่ที่ทนายตั้ม นำเงินบางส่วนไปเปลี่ยนแปลงสภาพเป็นอสังหาริมทรัพย์ ตรวจค้นราว 2 ชั่วโมง ก่อนยึดกระเป๋าแบรนด์เนมกว่า 10 ใบ และเอกสารจำนวนหนึ่งไว้เป็นหลักฐาน
ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ ระหว่างตำรวจคุมตัว ทนายตั้ม และ นางปทิตตา ภรรยา มาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปราม ก็ได้เห็นภาพทนายตั้ม และภรรยาถูกสื่อมวลชนรุมถาม แต่ทั้งคู่ทำสีหน้าเรียบเฉย โดยเฉพาะทนายตั้ม รีบเดินผ่านสื่อไปอย่างไว ไม่ตอบคำถามใด ๆ
ช่างต่างจากหลายวันก่อน (5 พ.ย.) วันที่ทนายตั้มโผล่ปรากฏตัวครั้งแรกที่กองบังคับการปราบปราม หลังถูก "มาดามอ้อย" แจ้งความดำเนินคดี ก็เอาแต่เก็บตัวเงียบมานานนับสัปดาห์ โดยวันนั้นทนายตั้ม สีหน้าแววตาดูมั่นอกมั่นใจ ฝีปากกล้าพูดดุดัน ตามฉบับทนายตั้ม ถามอะไร ก็ตอบสื่อมวลชนในหลายประเด็น
ในส่วนการสอบปากคำทนายตั้ม และภรรยา ตำรวจได้แยกเค้นสอบคนละห้อง ยาวนานหลายชั่วโมง โดย พลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เผยว่า แม้ทั้งคู่ให้การปฏิเสธ แต่พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูงเกิน 3 ปี และเกรงผู้ต้องหาไปยุ่งเหยิงกับ พยานหลักฐาน
การสอบสวนดำเนินมาจนช่วงหลัง 23.00 น. ตำรวจลงมาตรวจความเรียบร้อยบริเวณห้องควบคุมผู้ต้องหาที่อยู่ชั้น 1 โดยขอความร่วมมือผู้สื่อข่าวออกนอกอาคาร บอกว่า ทนายตั้ม ร้องขอ ไม่ต้องการให้สื่อมวลชนบันทึกภาพตอนเดินเข้าห้องควบคุมผู้ต้องหา ซึ่งผิดวิสัยของทนายตั้ม ปกติชอบออกสื่อฯและเป็นข่าวกระทั่งช่วงเที่ยงคืนครึ่ง ตำรวจคุมตัวทั้งสองคนเดินลงมาเข้าห้องขังที่ชั้น 1 สีหน้าเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไร
ด้าน นาย สายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของทนายตั้ม บอกว่า ทนายตั้ม ไม่เครียด โดยเมื่อ 5 วันก่อนแต่งตัวใส่สูทรออยู่ที่บ้าน ตำรวจก็ไม่ไปจับ กระทั่งเห็นว่ายังไม่ออกหมายจับจึงเดินทางไปทำวัดเย็น พร้อมเตรียมนอนค้างที่วัด ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ยืนยัน ไม่ได้หลบหนีไปยังชายแดนอย่างที่เข้าใจกัน ยอมรับว่าภรรยาของทนายตั้ม เครียด เพราะเป็นผู้หญิง
ส่วนแนทางสู้คดี ยืนยันว่า เตรียมพยานหลักฐานไว้พร้อมแล้ว เชื่อว่าจะต่อสู้คดีได้ในชั้นศาล แต่ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจ และการตีความกฎหมาย เดี๋ยวจะนอกจากนี้จะหารือญาติของลูกความเตรียมหลักทรัพย์ประกันตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน
ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา ทนายตั้ม มีโจทย์หลายคน คอยรุมกองกฐิน และถ้าใครยังจำได้ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปรียบดั่งผู้มาก่อนกาล เคยออกมาพูดถึงพฤติกรรมของทนายตั้มไว้อย่างเผ็ดร้อน และเรื่องลามไปถึงขั้นยื่นถอนชื่อ "ทนายตั้ม" จากการเป็นทนาย ด้วยในตอนนั้น
คู่ปรับอีกคน นายสนธิ ลิ้มทองกุล เรียกว่าเป็นกุนซือเปิดประเด็น "มาดามอ้อย" กล้าลุกออกมาแฉพฤติกรรมทนายตั้มเป็นฉาก ๆ ขณะที่ทนายตั้ม ก็ต้องออกมาโพสต์ข้อความบนเพจ ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ โต้ว่า พี่สนธิ ลงข่าวว่า ผมฉ้อโกงเงิน 71 ล้าน พนันกันไหมใครหน้าแหก ดื่มเยี่ยว 71 แก้ว ส่วน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ออกมาโต้และแฉข้อมูล แบบถึงพริกถึงขิง นำไปสู่การแฉเป็นฉาก กระชากหน้ากากทนายแบรนด์เนม ทนาย 888 ที่แน่ ๆ การแฉเรื่องใหญ่ฉ้อโกง "มาดามอ้อย" ครั้งนี้ ส่งผลทนายตั้ม ตกวิบากกรรมถูกจับพร้อมภรรยาเมื่อวาน
มาดูปฏิกิริยาคู่ปรับเก่า นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ ครูปรีชา พอรู้ข่าวทนายตั้มถูกตำรวจจับ ก็พูดแรงว่า "ผลกรรมเริ่มทำงาน ความจริงก็คือความจริงเสมอ ทำอย่างไรได้อย่างนั้น ที่ผ่านมาทำกับครูเอาไว้เยอะ"
แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ หลังทราบข่าวทนายตั้ม ถูกจับ เจ้าตัวบอกว่า รู้สึกปลื้ม มีกำลังใจในการสืบพยานเรื่องของตัวเองมากขึ้น ในที่สุดแล้วความยุติธรรม ก็มีอยู่จริง กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ
ส่วนกลุ่มเพื่อนทนายหลายคน ก็เคลื่อนไหวกันรั่ว ๆ ไม่มีใครเข้าข้างทนายตั้มเลย ทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า "วางแผนฉ้อโกง ร่วมกัน 5 คนขึ้นไป เป็นความผิดฐาน ซ่องโจร อีก 1 กระทง" เช่นเดียวกับ ทนายรัชพล โพสต์แค่สั้น ๆ ระบุว่า "ได้ข่าวหมายจับออก หมายจับออก รู้กันทั่ว และ เดาว่า ไม่ได้ประกันตัว"
ส่วน ทนายรณณรงค์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "ทนายคู่ใจ" ว่า "สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม"