สนามข่าว 7 สี - ตามกันต่อกรณีชาวบ้านตำบลกู่กาสิงห์ อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด ไปกู้เงินจากธนาคารแห่งหนึ่ง สาขาเมืองบัว วงเงินไม่กี่แสนบาท ปรากฏว่า ผ่านไป 1 ปี ยอดหนี้โผล่เป็น 1-3 ล้านบาท จึงรวมตัวไปร้องทุกข์ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด หลังธนาคารปฏิเสธไม่รับผิดชอบ เพราะตรวจสอบ พบเกิดจากทุจริตของเจ้าหน้าที่ เป็นความผิดส่วนบุคคล ทางธนาคารไม่สามารถรับผิดชอบได้ ต้องไปไล่บี้กับเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว
นอกจากนี้ มีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่คนนี้ ย้ายไปที่ธนาคารสาขาอื่น และมีชาวบ้านในตำบลพรมสวรรค์ อำเภอโพนทอง ได้รับผลกระทบลักษณะคล้ายกันกว่า 20 คน
เมื่อวานนี้ (7 พ.ย.) ชาวบ้านไปให้ปากคำเพิ่มเติมกับอัยการคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดร้อยเอ็ด ปรากฏว่า พบมีชาวบ้านอีก 9 คน ในตำบลกู่กาสิงห์ ที่กลายเป็นลูกหนี้ของธนาคารดังกล่าว ทั้งที่ไม่ได้ยื่นกู้ สรุปแล้วกรณีนี้ เฉพาะตำบลกู่กาสิงห์ มีชาวบ้านได้รับความเสียหาย 12 คน มูลค่าความเสียหาย 12 ล้านบาท
พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิฯ จังหวัดร้อยเอ็ด บอกว่า จากข้อมูลที่ชาวบ้านให้มา จะมีผู้จัดการ และเจ้าหน้าที่ของธนาคาร สาขาดังกล่าว 3-4 คน ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน เพื่อสำรวจว่าใครสนใจจะขอสินเชื่อ โดยให้นำหลักทรัพย์ที่ชาวบ้านมี มาประเมินราคา และหากประเมินหลักทรัพย์แล้ว ราคาต่ำกว่าวงเงินที่ขอกู้ จะชักชวนให้ลองยื่นเอกสารเข้าร่วมโครงการสินเชื่ออื่น ๆ เช่น โครงการจำนำข้าว โครงการซื้อรถแทรกเตอร์ โครงการชะลอขายข้าวเปลือกนาปี จากนั้นจะหลอกว่า ขอเอาเงินผ่านบัญชี แล้วให้ชาวบ้านไปเบิกถอนเงินมาให้
ยังมีชาวบ้านถูกหลอกให้นำโฉนดที่ดินไปจดจำนอง เมื่อปี 2564 แต่พอไปตรวจสอบกับธนาคาร อ้างว่า ไม่พบเอกสารการจดจำนอง รวมถึงโฉนดที่ดิน เชื่อว่ามีการกระทำซ้ำซ้อน จึงฝากประชาชนที่นำโฉนดไปทำธุรกรรมกับทางธนาคาร ควรตรวจสอบว่า โฉนดที่ดินยังอยู่กับธนาคารหรือไม่
หลังจากรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้น จะพาชาวบ้านไปแจ้งความ สภ.เกษตรวิสัย เพื่อเอาผิดกับกลุ่มคนหรือผู้เกี่ยวข้อง