คว้าน้ำเหลว ! อดีตรอง นพ.ใหญ่ รพ.ตร.ไม่มีข้อมูล "ทักษิณ" รักษาตัว ชั้น 14

View icon 35
วันที่ 8 พ.ย. 2567 | 06.41 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - กรณีการพักรักษาตัวนอกเรือนจำของ นายทักษิณ ชินวัตร ก็ต้องบอกว่ากรรมาธิการความมั่นคงฯ สภาผู้แทนราษฎร คว้าน้ำเหลว แต่ก็พบพิรุธที่ทำอึ้งไปตาม ๆ กันด้วย

การประชุมกรรมาธิการความมั่นคงฯ ของสภาผู้แทนราษฎร ที่ตั้งสอบข้อเท็จจริงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร ขอพักรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ

โดยเชิญทั้ง พลตำรวจเอก เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส, พลตำรวจเอก สุรเชษฐ์ หักพาล, นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และ ผอ.โรงพยาบาลราชทัณฑ์ เข้าให้ข้อมูล แต่ก็มีเพียงตัวแทนจาก 2 โรงพยาบาล เข้าให้ข้อมูลเท่านั้น

โดยในรอบก็ซักถามหลายประเด็น โดยเฉพาะที่มาจาก หมอวาโย ถามข้อมูลลึกทั้งจำนวนหมอของโรงพยาบาล การผ่าตัด การส่งตัวและพักรักษาของนายทักษิณ ที่สอบถามผู้เกี่ยวข้อง แต่คนแรกที่ให้ข้อมูล อดีตรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ แม้จะเป็นอดีตฯ แต่ก็คาดหวังจะมีข้อมูลเป็นประโยชน์

เพราะระหว่างที่นายทักษิณ เข้าโรงพยาบาลตำรวจช่วง 22-23 สิงหาคม 2566 คุณหมอท่านนี้ยังไม่เกษียณ แต่ปรากฎว่าข้อมูลที่คุณหมอบอกตอบก็ทำอึ้งไปตาม ๆ กัน เพราะไม่ทราบข้อมูลช่วงนายทักษิณพักรักษาตัวอยู่ชั้น 14 เลย

สาเหตุที่หมอไม่รู้ เพราะอยู่ในช่วงเออรี่รีไทร์เลยลาพักร้อน แบบนี้ก็เหมือนจะไม่ได้ข้อมูลที่นายทักษิณ รักษาตัวกันเลย และไม่เพียงเท่านี้ พอจี้ถามเรื่องการส่งตัวมาที่โรงพยาบาลตำรวจ ก็อึ้งกันอีกดอก

เมื่อมีข้อสังเกตวันที่นายทักษิณ เข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ คืนแรกก็แน่นหน้าอก คนที่มาดูเป็นเพียงพยาบาลในเรือนจำเท่านั้น ยังไม่ถูกนำตัวไปที่โรงพยาบาลเลย จึงโทรไปปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ และส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลาแค่ 21 นาที เท่านั้น จากที่จับระยะทางจากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไปโรงพยาบาลตำรวจ ใช้เวลา 17 นาที แสดงว่าระยะเวลาวินิจฉัยมีแค่ 4 นาที ถือว่าค่อนข้างเร็วมาก นี่เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่ทำให้เกิดคำถามมากมาย ถึงแม้ได้รับคำอธิบายว่า การส่งตัวนายทักษิณ ดำเนินการโดย ผบ.เรือนจำ

แต่ทำไมบทบาทของหมอโรงพยาบาลราชทัณฑ์น้อยมากที่จะให้ความเห็นเรื่องนี้ ซึ่งคณะกรรมาธิการความมั่นคงฯ ถึงกับท้อใจ ตัดพ้อกลางวงสัมภาษณ์ว่า การเชิญหน่วยงานมาชี้แจงครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือน้อยที่สุด ถามใครก็บอกไม่รู้ เหมือนไม่อยากพูดกัน ทำให้มีปัญหาค่อนข้างมากในการพิจารณา

ตอนนี้ นายทักษิณ ก็ได้รับใบบริสุทธิ์ มีสถานะเป็นบุคคลธรรมดาแล้ว ซึ่งก็พร้อมจะเดินทางไปม่วนจอยขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง นายก อบจ. ที่จังหวัดอุดรธานี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง

ซึ่งก็มีคำยืนยันจาก นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าการที่นายทักษิณ เป็นผู้ช่วยหาเสียง ถือว่าเป็นไปตามระเบียบของ กกต. เพราะก่อนหน้านี้เคยทำมาแล้ว จึงไม่กังวลว่าจะถูกร้องเรียนภายหลัง