พบอาวุธปืนที่คนร้ายบุกยิง นายกอาร์ม เสียชีวิตในห้องประชุม พบอาวุธปืนใช้ก่อเหตุมา 24 คดี

พบอาวุธปืนที่คนร้ายบุกยิง นายกอาร์ม เสียชีวิตในห้องประชุม พบอาวุธปืนใช้ก่อเหตุมา 24 คดี

View icon 218
วันที่ 9 พ.ย. 2567 | 11.43 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนที่คนร้ายบุกยิง นายกอาร์ม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ เสียชีวิตในห้องประชุม จากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนใช้ก่อเหตุมา 24 คดี

วันที่ 9 พ.ย.67 ความคืบหน้ากรณีที่คนร้ายใช้อาวุธปืนเข้าไปบุกยิงนายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม อายุ 55 ปี ซึ่งนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ หรือ นายกอาร์ม เสียชีวิตในห้องประชุม ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐาน เป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 จำนวน 19 ปลอก ในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 10 พบว่า ปลอกกระสุนปืนดังกล่าวเป็นปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ที่ยิงมาจากอาวุธปืน AK 102 ซึ่งสามารถใช้ใส่กระสุนปืน เอ็ม.16 กันได้ ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุคดีความมั่นคงในพื้นที่ อ.ตากใบ และในพื้นที่ อ.รือเสาะ มาทั้งสิ้น 23 คดี

ซึ่งคดีบุกยิงนายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะเป็นคดีที่ 24 โดยคนร้ายก่อนที่จะใช้ก่อเหตุบุกยิงนายวิเชษฐ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลรือเสาะ คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนกระบอกดังกล่าวก่อเหตุตามประกบยิง สมาชิกเอกอมร บุตรทองบุญ และสมาชิกเอกสนธยา ชัยสิทธิ์ ซึ่งเป็นชุดรักษาความปลอดภัยครูโรงเรียนสิทธิสารประดิษฐ์ ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เสียชีวิต เมื่อวันที่ 19 ก.พ.67 ที่ผ่านมา ที่สำคัญในคดีนี้เชื่อว่ามีคนภายในโรงงานรู้เห็นหรือแจ้งเบาะแส มิเช่นนั้นกลุ่มคนร้ายจะเจาะจงบุกเข้าไปยิงนายวิเชษฐ์ ในห้องประชุมได้อย่างไรโดยที่ไม่ต้องมีการค้นหาเป้าหมาย ที่เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายได้ล็อคไว้โยที่ไม่ได้ทำร้ายบุคคลอีก 3 คน ที่ได้มีการพูดคุยอยู่กับนายวิเชษฐ์

แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง ซึ่งเป็นชุดคลี่คลายคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แจ้งว่า จากการจับกุมสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงรายหนึ่งในพื้นที่ อ.ตากใบ คือนายซูกิฟรี มือราเฮงในช่วงก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวนปากคำถึงการเคลื่อนไหวของสมาชิกในกลุ่ม จะมีความเชื่อมโยงกันระหว่างสมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ อ.ตากใบ กับ อ.รือเสาะ โดยจะมีอาวุธปืนเป็นของส่วนรวมหรืออาวุธปืนเป็นของกลองกลางใช้ก่อเหตุร่วมกัน ซึ่งจะรู้ในสมาชิกกลุ่มว่าปืนของกลางหรือของส่วนรวมจะแอบซุกซ่อนไว้ที่ใด ที่สมาชิกในกลุ่มจะสามารถนำเอาออกมาใช้ก่อเหตุได้ทันที และเมื่อก่อเหตุแล้วเสร็จจะต้องนำกลับไปไว้ที่เดิม ซึ่งจะมีการเคลื่อนย้ายที่เก็บของกลางอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นและป้องกันการตรวจยึดของเจ้าหน้าที่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง