ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตามต่อที่บุรีรัมย์ กับแก๊งเงินกู้ ที่ลามไปถึงการปลอมเอกสารที่ดิน เพื่อยึดบ้านลูกหนี้แบบไม่เป็นธรรม ซึ่งพบประวัติแก๊งนี้ก่อเหตุทั่วอีสาน
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นที่อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ทีมข่าวได้รับการร้องเรียนจาก นางไฮ อายุ 52 ปี ว่า บ้านของตัวเองถูกใส่กุญแจล็อกประตูทางเข้าและคล้องโซ่อย่างแน่นหนา โดยบอกว่า หลังกลับจากเยี่ยมลูกที่กรุงเทพฯ ก็เข้าบ้านไม่ได้ เพราะมีนายทุนที่เคยไปกู้ยืมเงินมาล็อกบ้าน และได้ทำการโอนบ้านไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้เซ็นโอนใด ๆ แต่นายทุนได้นำหลักฐานเอกสารลงบันทึกประจำวันที่ สน.ร่มเกล้า มาแสดงให้ดูว่า มีการมอบอำนาจให้ นางบัวรื่น สุดประโคน เป็นผู้มีอำนาจโอนขายที่ดิน ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2565 ซึ่งเธอบอกว่า ตัวเองยังไม่เคยไปที่ สน.ร่มเกล้า ในพื้นที่กรุงเทพฯ และยังไม่รู้เลยว่า สน. อยู่ตรงไหน
นางไฮ เล่าว่า ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ได้เอาโฉนดที่ดิน 4 ไร่ มีบ้าน 1 หลัง ไปกู้เงินกับบริษัทไฟแนนซ์แห่งหนึ่งได้เงินมา 110,000 บาท ดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อเดือน ต่อมามีนายหน้ามาติดต่อให้ย้ายไฟแนนซ์ โดยเพิ่มเงินทุนให้ 10,000 บาท จึงยอมทำตาม เพราะต้องการเงินเพิ่ม โดยทำหนังสือสัญญาเงินกู้กับนายทุนที่อำเภอประโคนชัย แล้วต่อมามีคนเตือนให้ระวังโดยให้ไปตรวจสอบที่ดินของตัวเองว่า "ยังอยู่ไหม" เมื่อตรวจสอบพบว่า ได้มีการยื่นหลักฐานโอนเป็นของนายทุนแล้ว จึงแจ้งตำรวจ สภ.ประโคนชัย แต่ตำรวจไม่รับแจ้งความ จนตอนนี้หมดหนทางไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะนายทุนเรียกเงิน 800,000 บาท ทั้ง ๆ ที่ติดหนี้พร้อมดอกเบี้ยยังไม่ถึง 200,000 บาท
ล่าสุด ทีมข่าวลงพื้นที่สืบค้นไปอีก จนไปพบตัว นางบัวรื่น ซึ่งเป็นคนรับโอนที่มาจากนายทุน จนทราบว่า นางบัวรื่น เป็นแค่หมากในขบวนการที่รับโอนที่ดินมาจากคนที่ชื่อ น้ำหวาน ซึ่งเป็นชาวจังหวัดชัยภูมิ โดยเอาเอกสารปลอมไปทำธุรกรรมที่สำนักงานที่อำเภอประโคนชัย ซึ่งตอนนี้ น้ำหวาน ถูกจับแล้ว ในข้อหาฉ้อโกง และถูกคุมตัวอยู่ในกรุงเทพมหานคร
ซึ่งประวัติของแก๊งนี้ไม่ธรรมดา ตระเวนก่อนเหตุบบนี้มาล้วทั่วภาคอีสาน โดยเน้นที่ชาวบ้านกำลังร้อนเงิน ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความหลายพื้นที่ รวมถึงแก๊งนี้เครือข่ายกับนายหน้าขายที่ดินขายบ้านในพื้นที่ภาคอีสานด้วย