ลุงโหดยิงคนงานรดน้ำสวนกุหลาบ 17 นัด เสียชีวิตคาเรือ อ้างนึกว่าโจร
วันนี้ (11 พ.ย.67) วานนี้ เวลา 20.00 น. ร.ต.อ. บัญชา คำขาว รอง สว.(สอบสวน) สภ.วิหารแดง จ.สระบุรี ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณบ้านหลังหนึ่ง ต.หนองหมู อ.วิหารแดง จ.สระบุรี จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภูนล บุตโรบล ผกก.สภ.วิหารแดง และ พ.ต.ท. รักศาสน์ สำเร็จ รอง ผกก.สืบสวน สภ.วิหารแดง ทราบประสานไปยังกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดสระบุรี พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลวิหารแดงและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู จุดสภ.วิหารแดง ลงไปยังที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบเป็นบ้าน 2 ชั้น สีฟ้า ด้านหลังบ้านดังกล่าวเป็นสวนปลูกต้นดอกกุหลาบประมาณ 20 ไร่ ลักษณะปลูกเป็นร่องมีคูน้ำกั้น บริเวณคูน้ำหลังบ้านพบเรือสำหรับใช้วิ่งรดน้ำต้นดอกกุหลาบ บนเรือพบศพนายอรุณ อายุ 50 ปี สวมกางเกงยีนส์ สีน้ำเงิน เสื้อแขนยาวลายสก๊อต สวมหมวกไหมพรม และสวมหมวกเชิงทับ สภาพนอนอยู่หัวเรือพิงกาบเรืออยู่
จาการตรวจสอบพบถูกอาวุธปืนลูกซองยาวยิงเข้าที่หน้าอกด้านซ้าย จำนวน 9 นัด ไหล่ขวา 4 นัดและที่ลำคอ 4 นัด รวม 17 นัด เสียชีวิต ห่างจากเรือบริเวณหลังบ้านหลังดังกล่าวประมาณ 6 เมตร ยังพบปลอกกระสุนลูกปืนเบอร์ 12 จำนวน 1 ปลอกตกอยู่สภาพถูกยิงแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายปัญญา อายุ 68 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ภายในบ้านพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุยิงนายอรุณ เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บปืนลูกซองยาวไปตรวจสอบพร้อมนำตัวนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ไปสอบปากคำที่ สภ.วิหารแดง เพื่อหามูลเหตุในครั้งนี้
สอบถามลูกชายของนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ เล่าให้กับทีมข่าวฟังว่า ขณะเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้านมีพ่อของตนอยู่กับนายอรุณ ผู้ตาย แค่ 2 คน โดยไม่ทราบเลยว่ามูลเหตุที่พ่อตนยิงนายอรุณ เสียชีวิตมาจากอะไร รู้แต่ว่าผู้เสียชีวิตมารับจ้างรดน้ำต้นดอกกุหลาบที่สวนหลังบ้านของพ่อตน แต่พื้นที่ดินดังกล่าวพ่อตนได้ให้คนอื่นเช่าไปแล้ว และคนเช่าได้มาปลูกต้นดอกกุหลาบประมาณ 30 กว่าไร่ นายอรุณ ผู้เสียชีวิต รับจ้างมารดน้ำต้นดอกกุหลาบเป็นวันแรก จนหลังเกิดเหตุพ่อของตนโทรศัพท์บอกตนว่าถูกนายอรุณ ผู้เสียชีวิต มาหาเรื่องและก่อเหตุยิงนายอรุณ เสียชีวิต ให้ตนโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ พ่อตนเป็นคนใจเย็นมีเหตุผล ตนเชื่อว่าผู้เสียชีวิตต้องมาหาเรื่องพ่อตนก่อน จนทำให้บันดาลโทสะจนทำให้ก่อเหตุในครั้งนี้ ส่วนปืนลูกซองยาวที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนมรดกของพ่อมีทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ด้านนายเสน่ห์ อายุ 64 ปี เป็นชาว อ.หนองเสือ จ.ปทุมธานี เล่าว่า ตนได้เช่าที่ดินจากนายนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ เพื่อปลูกต้นดอกกุหลาบ 20 ไร่ แล้วตนได้จ้างนายอรุณ ผู้เสียชีวิต มารดน้ำต้นดอกดอกกุหลาบซึ่งเป็นวันแรก ให้ค่าแรงวันละ 300 บาท ตนเองไม่ทราบสาเหตุว่ามูลเหตุในครั้งนี้เกิดจากอะไร ตนได้พูดคุยกับนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ว่าตนจะจ้างคนงานมารดน้ำต้นดอกกุหลาบ นายปัญญา ผู้ก่อเหตุยังพูดคุยดีอยู่เลย ตนรู้สึกตกใจเมื่อทราบข่าวที่นายอรุณมาถูกนายปัญญายิงเสียชีวิต การรดต้นดอกกุหลาบต้องใช้เรือวิ่งตามร่องคูน้ำ นายอรุณ ผู้เสียชีวิตมารดน้ำสวนต้นดอกกุหลาบตั้งแต่เช้าแล้วและจะแล้วเสร็จช่วงค่ำๆ ตนยังซื้อน้ำมันมาไว้ให้เติมเครื่องเรือเมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ขณะเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตกับผู้ก่อเหตุอยู่กันแค่ 2 คนเท่านั้น
ด้านภรรยาของนายอรุณ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า สามีของตนสนิทกันกับนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ซึ่งบ้านของตนก็อยู่ตรงกันข้ามไม่ไกลจากบ้านของนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ ตนเองได้ยินเสียงปืนประมาณ 2 นัด แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรคิดว่าคนจุดประทัดไล่นก จนมีคนมาบอกว่ามีญาติของนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ โพสต์ลงโซเซียลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของใครซะอย่าง ตนจึงได้เดินมาดูจึงถึงรู้ว่าสามีตนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว ตนกับสามีมีอาชีพปลูก กล้วยหอมได้ประมาณ 2 ปี ส่วนสามีตนเป็นคนนิสัยดีไม่ไปยุ่งกับใครทำแต่งาน ส่วนสาเหตุที่สามีตนถูกยิงเสียชีวิตในครั้งนี้ตนไม่ทราบเลยว่าเกิดจากอะไร
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายปัญญา ผู้ก่อเหตุ มาปากคำที่ สภ.วิหารแดง เบื้องต้นนายปัญญา ได้ให้ปากคำโดยอ้างว่านายอรุณ ผู้เสียชีวิตเป็นคนร้ายจะเข้ามาขโมยทรัพย์สินภายในบ้าน จึงได้นำปืนลูกซองยาวที่เก็บไว้ในบ้านออกมายิงใส่นายอรุณ จนทำให้เสียชีวิต จากการสอบสวนยังพบว่านายปัญญา ผู้ก่อเหตุ เคยเข้ารักษาตัวจิตเวชมาก่อนเมื่อหลายปีที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อจากคำให้การของนายปัญญา ต้องรอผลตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานแวดล้อม เบื้องต้นได้ตั้งข้อหานายปัญญา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สำหรับศพนายอรุณ ได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งชันสูตรอย่างละเอียดที่สถาบันวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต่อไป